พลวัตทางสังคมวัฒนธรรมเชิงการเมืองการปกครองในเพลงสร้างชาติลาว

Abstract

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการขับเคลื่อนทางสังคมวัฒนธรรมในเพลงสร้างชาติลาว การวิจัย ในครั้งนี้ใช้วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) โดยการรวบรวมและศึกษาเพลงลาว ศึกษาประวัติศาสตร์ ลาว วิเคราะห์การขับเคลื่อนทางสังคมวัฒนธรรมเชิงการเชิงการเมืองการปกครองในเพลงสร้างชาติลาว โดยวิธีพรรณนา วิเคราะห์ (Descriptive Analysis) โดยใช้ทฤษฎีโครงสร้าง–หน้าที่ (Structural-functional Theory) ผลการศึกษา พบว่า บทเพลงสร้างชาติมีเนื้อหาการขับเคลื่อนทางสังคมวัฒนธรรมเชิงการเมืองการปกครองของเพลงสร้างชาติลาว จำ นวนทั้ง 27 เพลง อันเกี่ยวกับเหตุการณ์การต่อสู้จากการรุกรานของศัตรูทั้งฝรั่งเศส อเมริกา และการเปลี่ยนแปลง การเมืองการปกครองและสังคม จากระบอบประชาธิปไตยมาเป็นมาระบอบประชาธิปไตยประชาชนหรือแบบสังคมนิยม ภายใต้การนำของพรรคประชาชนปฏิวัติลาว เนื้อหาเพลงยังมีลักษณะปลุกใจให้ลุกขึ้นมาต่อสู้ เกิดความรักและสามัคคี สร้างชาติดังคำขวัญว่า สันติภาพ เอกราช ประชาธิปไตย เอกภาพ วัฒนาถาวร ส่งผลให้ประเทศมีความสงบสุข เจริญ รุ่งเรือง จากเพลงสร้างชาติลาว จำ นวนทั้ง 27 เพลง ผู้วิจัยได้เลือกมายกตัวอย่าง จำนวน 6 เพลง ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับ การขับเคลื่อนทางสังคมวัฒนธรรมเชิงการเมืองการปกครองอย่างชัดเจนได้แก่ เพลงป่าไม้สดชื่น เพลงแดนแห่งอิสระ เพลงฮักเมืองลาว สายใจลาว-เวียด เพลงเมืองลาวใหม่มั่นยืน และเพลงสามัคคี 3 ชาติอินโดจีน พบว่าเนื้อหาของบทเพลง แสดงออกถึงความรักชาติ การปลุกจิตสำนึกความสามัคคีของคนลาวทั้งชาติให้รักบ้านเกิดเมืองนอน รักเชื้อเผ่าพันธุ์ และความองอาจลุกขึ้นมาต่อสู้กอบกู้ความเป็นเอกราช เสรีภาพ ขับไล่พวกศัตรูที่รุกราน"

This research article aimed to study the socio cultural dynamic in Laos national inspiration songs. The qualitative research was adopted to gather and study about Laos songs, Laos history and to analyze socio cultural dynamic found in the songs using descriptive analysis based on structural -functional theory. The result of the study showed that there were 27 songs that have lyrics related to socio cultural dynamic showing situation of fighting of Laos against the invasion of French and American, the transition of politic and social from democratic into citizenship democratic or socialism by Lao People’s Revolutionary Party. Moreover, the songs was about cheering the people to have love and unity and to build the nation as in the slogan “Peace, Independence, Democratic, Unity and Permanent” resulting the peace and prosperity of the nation. The researcher selected 6 out of 27 songs that showed obvious contents related to socio cultural in politic aspect including Pamai Sotchuen (Fresh Forest), Daen Itsara (Independent Land), Hak Mueang Lao (Love Laos), Sai-chai Lao- Viet (Laos –Vietnam Relationship), Lao Mai Man Yuen (Permanent New Laos), and Samakkhee Sam Chat Indo-chin (Three Indo-china Nation Unity). It was found that the lyrics of the songs presented about nation loving, love nation cheering, own race loving and bravado to reestablish its sovereignty, freedom, fighting against the invasion of the enemies.