การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการงานวิชาการโดยบูรณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขต พื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา.

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ พัฒนารูปแบบการบริหารจัดการงานวิชาการโดยบูรณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจังหวัดนครราชสีมา และเพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพของรูปแบบการบริหารจัดการงานวิชาการโดยบูรณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจังหวัดนครราชสีมากลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือ สถานศึกษาพอเพียงหรือสถานศึกษาต้นแบบพอเพียง จำนวน 46 โรงเรียน โดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) การดำเนินการวิจัยแบ่งเป็น 5 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 ศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการงานวิชาการโดยบูรณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ขั้นตอนที่ 2 สร้างรูปแบบการบริหารจัดการงานวิชาการโดยบูรณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา ขั้นตอนที่ 3 ประเมินความเหมาะสมของรูปแบบการบริหารจัดการงานวิชาการโดยบูรณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา ขั้นตอนที่ 4 หาประสิทธิภาพของรูปแบบการบริหารจัดการงานวิชาการโดยบูรณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา ขั้นตอนที่ 5 พัฒนารูปแบบการบริหารจัดการงานวิชาการโดย บูรณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของโรงเรียนในสังกัดสำานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา ผลการวิจัยพบว่า 1.รูปแบบการบริหารจัดการงานวิชาการโดยบูรณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจังหวัดนครราชสีมาประกอบด้วย 1) หลักการและเหตุผล 2) วัตถุประสงค์ 3) สาระสำคัญ 4) แนวทางสู่การปฏิบัติ 5) เงื่อนไขความสำเร็จ 2. ประสิทธิภาพของรูปแบบการบริหารจัดการงานวิชาการโดยบูรณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของโรงเรียนสังกัดสำานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจังหวัดนครราชสีมา พบว่า 2.1 รูปแบบมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด 2.2 รูปแบบมีความเป็นไปได้ในการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก 2.3 รูปแบบได้รับยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญผ่านเกณฑ์ทุกด้านและทุกข้อ

The purposes of this research were (1) to develop an academic ministration model integrating the Sufficiency Economy Philosophy and (2) to examine the efficiency of the proposed model for schools under the Office of Nakhon Ratchasima Elementary Education Service Area. The samples of the study were 46 Sufficiency Economy Philosophy model schools, selected by purposive sampling. The research procedures consisted of five steps as follows: 1) study academic administration documents and research studies related to the integration of Sufficiency Economy Philosophy, 2) design the academic administration model 3) examine the suitability of the proposed model, 4) evaluate the efficiency of the proposed model, and 5) develop the academic administration model for schools under the Office of Nakhon Ratchasima Elementary Education Service Area. The findings were as follows: 1) The academic administration model integrating the Sufficiency Economy Philosophy for schools under the Office of Nakhon Ratchasima Elementary Education Service Area consisted of five major components: 1) Rationale, 2) Objectives, 3) key tasks, 4) educational guidance, and 5) condition for success. 2) The efficiency of academic administration model integrating the Sufficiency Economy Philosophy for schools under the Office of Nakhon Ratchasima Elementary Education Service Area showed that : 2.1) The proposed model was in the most appropriate level. 2.2) The proposed model was practical to Sufficiency Economy Philosophy schools in the more appropriate level. 2.3) The proposed model was confirmed the validity by the experts all aspect and all items.