การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาบริบทของการเป็นอยู่ของกลุ่มผู้สูงอายุในชุมชนที่อาศัย ในเขตพื้นที่เทศบาลเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ 2) เพื่อศึกษาความต้องการด้านสุขภาพ สวัสดิการ ทักษะความรู้ และความต้องการของผู้สูงอายุ ในเขตพื้นที่เทศบาลเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ 3)เพื่อพัฒนาระบบบูรณาการสารสนเทศเพื่อรองรับการเพิ่มขึ้นของประชาการผู้สูงวัย ในเขตพื้นที่เทศบาลเมืองบุรีรัมย์ โดยใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบโควตา (Quota sampling) โดยแจกแจงแบ่งสัดส่วนตามขนาดประชากรแต่ละชุมชน เพื่อให้ได้กลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้สูงอายุตามจำนวน คือ 250 คน โดยกลุ่มกลุ่มตัวอย่างเป็นผู้สูงอายุที่มีอายุ 59 ปีขึ้นไป อาศัยอยู่ในพื้นที่เทศบาลเมืองบุรีรัมย์ เครื่องมือที่ใช้ คือ แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์เชิงลึก ความถี่ ร้อยละค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการสร้างเครื่องมือระบบบูรณาการสารสนเทศเพื่อรองรับการเพิ่มขึ้นของประชากรผู้สูงวัย ในเขตพื้นที่เทศบาลเมืองบุรีรัมย์
ผลการวิจัยพบว่า 1) บริบทของการเป็นอยู่ของกลุ่มผู้สูงอายุในชุมชนที่อาศัย ในเขตพื้นที่เทศบาลเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ พบว่า ผู้สูงอายุในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์มีจำนวนเพิ่มขึ้น โดยกลุ่มผู้สูงอายุเป็นประชากรในเขตและประชากรแฝง มีกลุ่ม ผู้สูงอายุที่เกษียณอายุราชการ ผู้สูงอายุที่มีอาชีพค้าขาย ผู้สูงอายุบางคนมีทักษะความรู้ด้านต่างๆ และผู้สูงอายุที่มีอาชีพรับจ้าง 2) ความต้องการด้านสุขภาพ สวัสดิการ ทักษะความรู้ และความต้องการของผู้สูงอายุ ในเขตพื้นที่เทศบาลเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ พบว่า ภาพรวมความต้องการของผู้สูงอายุ อยู่ใน ระดับมาก โดยด้านแรกที่ผู้สูงอายุต้องการมากที่สุด คือ ด้านการสร้างบริการและเครือข่ายการเกื้อหนุน ด้านที่สอง คือ ด้านสุขภาพและการรักษาพยาบาล และ ด้านที่สามคือ ด้านความมั่นคงทางสังคม ผู้สูงอายุ ผู้ดูแลและการคุ้มครอง 3) พัฒนาระบบบูรณาการสารสนเทศเพื่อรองรับการเพิ่มขึ้นของประชาการผู้สูงวัย ในเขตพื้นที่เทศบาลเมืองบุรีรัมย์ แบ่งส่วนการใช้งานออกเป็น 2 ระดับ คือ ระดับเจ้าหน้าที่ และระดับผู้บริหาร ผลการประเมินประสิทธิภาพของระบบบูรณาการสารสนเทศเพื่อรองรับการเพิ่มขึ้นของประชาการผู้สูงวัย ในเขตพื้นที่เทศบาลเมืองบุรีรัมย์ มีประสิทธิภาพอยู่ในระดับดี ผ่านเกณฑ์การประเมินและสามารถนำไปใช้งานได้
There are three aspects in this study. The first aspect is studying living conditions of elders who live in the town municipality in Buriram province. The second aspect is to study the requirements in health, benefits and knowledge of elders. The last aspect is to develop information systems integration of elder for support increasing aging society. Quota sampling was used in this study. The sample involved 250 elders who are older than 59 years old from various communities. The research instruments are questionnaire and deep interview. The data analysis of the study is percentage, the samples mean and standard deviation.
The result of the study found that there is increasing number of elders. The elders are population who live in town municipality and nonregistered population. The elders include elderly retired, elders who are merchant, elder who has other knowledge and elder who are an employee. The elders have generally high requirement. There are three requirements. The highest requirement is creating service and creating helping connection. The second requirement is health and medical treatment. The last requirement is social security and caretaker for elders. The information systems integration of elders for support increasing aging society is divided into two levels: officer and manager level. The result of evaluation of information systems integration of elder for support increasing aging society was held in high regard, it passed the assessment and is deemed fit for use.
