dc.contributor.author |
ธิติพรรณ์, บำรุงกุลพิพัฒน์ |
|
dc.contributor.author |
ดร. ผจญ, โกจารย์ศรี |
|
dc.date.accessioned |
2018-07-06T07:10:02Z |
|
dc.date.available |
2018-07-06T07:10:02Z |
|
dc.date.issued |
2018 |
|
dc.identifier.citation |
บทความฉบับเต็ม ภาคโปสเตอร์ การประชุมวิชาการเสนอผลงานวิจัยระดับบัณฑิตศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2554 |
en_US |
dc.identifier.uri |
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/4221 |
|
dc.description |
การที่จะสอนภาษาไทยให้บรรลุวัตถุประสงค์ของหลักสูตรนั้น จำเป็นต้องฝึกฝนทักษะ ต่าง ๆ ให้สัมพันธ์กัน
ทั้งทักษะการอ่าน การเขียน การฟัง การดูและการพูด โดยเฉพาะอย่างยิ่งทักษะการอ่าน ซึ่งสอดคล้องกับคำกล่าว
ของ สุจริต เพียรชอบ และสายใจ อินทรัมพรรย์. (2538 : 98) ที่กล่าวไว้ว่า “ทักษะการอ่านเป็นทักษะที่สำคัญและ
ใช้มากในชีวิตประจำวัน เพราะเป็นทักษะที่ใช้ในการแสวงหาสรรพวิทยาต่าง ๆ เพื่อความบันเทิงและการพักผ่อนหย่อน
ใจ ผู้ที่มีนิสัยรักการอ่านและมีทักษะในการอ่านย่อมแสวงหาความรู้และศึกษาเล่าเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถ
นำความรู้ที่ได้จากการอ่านไปใช้ในการพูดและการเขียนได้เป็นอย่างดี” และทักษะการเขียนถือว่าเป็นทักษะที่สำคัญยิ่ง
อีกทักษะหนึ่งที่ใช้ถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดและความเข้าใจออกมาเป็นตัวอักษร เพื่อสื่อความหมายให้ผู้อื่นเข้าใจ
ดังนั้นการเขียนสะกดคำที่ถูกต้องจึงมีความสำคัญต่อการเขียนเป็นอย่างมาก เพราะเป็นพื้นฐานที่จำเป็นของการเขียน อย่างหนึ่งที่นักเรียนจะต้องรู้จักสะกดคำให้ถูกต้องก่อน จึงจะสามารถเขียนประโยคและเรื่องราวได้ นอกจากนี้การเขียน
สะกดคำยังเป็นทักษะพื้นฐานในการแสดงออกที่สำคัญในการเรียนการสอนเกือบทุกวิชา
การฝึกการอ่านและการเขียนสะกดคำในภาษาไทยโดยการใช้แบบฝึกทักษะมีความสำคัญอย่างยิ่งเพราะแบบ
ฝึกทักษะเป็นเครื่องมือในการพัฒนาทักษะการเรียนรู้ภาษาไทย ช่วยให้นักเรียนมีทักษะทางภาษาคงทนและมีพัฒนาการ
ทางการเรียนรู้ในเนื้อหาวิชาได้ดี ซึ่งสอดคล้องกับคำกล่าว ที่ว่า การสอนภาษาไม่ว่าภาษาใดๆการฝึกทักษะทั้ง 4 ได้แก่
ฟัง พูด อ่าน เขียนเป็นสิ่งสำคัญมาก เด็กควรจะได้รับการฝึกทักษะทั้งสี่นี้จนสามารถใช้ภาษาได้อย่างคล่องแคล่ว โดย
อาจฝึกที่ละทักษะหรือฝึกสลับกันก็ได้ (ฐะปะนีย์ นาครทรรพ. 2542 : 50) ลักษณะที่ดีของแบบฝึกทักษะการเขียนสะกด
คำ ควรมีเนื้อหาตรงจุดประสงค์เรียงจากง่ายไปหายากมีเนื้อหาตรงกับหลักสูตร กิจกรรมเหมาะสมกับวัย ความสามารถ
และภูมิหลังของนักเรียน มีภาพประกอบ ตัวอย่างประกอบมีปัญหาท้าทาย มีเติมคำ โยงคำ หาความหมาย มีการวาง
ฟอร์มที่ดี มีที่ว่างเหมาะสมสำหรับฝึกเขียน มีคำสั่งสั้นๆ รัดกุมเข้าใจง่าย นักเรียนได้ฝึกคิด สนุกสนาน เวลาที่ใช้
เหมาะสม แบบฝึกมีหลายรูปแบบ นักเรียนไม่เบื่อ ท้าทายความสามารถและผู้เรียนสามารถนำไปฝึกด้วยตนเองได้ (ขันธ
ชัย มหาโพธิ์. 2535 : 20) และ จินตนา ชูเชิด ( 2537 : 24 ) ได้สรุปลักษณะของแบบฝึกที่ดีไว้ว่า จะต้องมีจุดมุ่งหมายที่
แน่นอนว่า ต้องการฝึกทักษะด้านใด ใช้ภาษาให้เหมาะสมกับวัยของนักเรียน มีรูปแบบดึงดูดความสนใจของนักเรียน
หลายรูปแบบ เพื่อให้เหมาะสมกับวัยของนักเรียน เรียงลำดับความยากง่าย ใช้เวลาในการฝึกเหมาะสมไม่นานจนเกินไป
มีภาพน่าสนใจ ทำให้นักเรียนมีความตั้งใจที่ฝึก
ดังนั้นผู้วิจัยจึงมีความสนใจที่จะวิจัย เรื่องผลการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำตามมาตรา
ตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่ผู้วิจัยเป็นผู้สอน เพื่อนำมาใช้พัฒนา
ทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ โดยรวบรวมคำยากจากบัญชีคำพื้นฐานในบทเรียน มาจัดทำเป็นแบบฝึกทักษะที่
มีรูปแบบน่าสนใจ มีเนื้อหาเหมาะสมกับระดับความรู้ความสามารถและวัยของผู้เรียน โดยหวังว่าแบบฝึกทักษะที่สร้าง
ขึ้นนี้จะเป็นสื่อนวัตกรรม ที่จะช่วยยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาไทยให้สูงขึ้นได้ |
en_US |
dc.language.iso |
th_TH |
en_US |
dc.publisher |
มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ |
en_US |
dc.subject |
Skill Exercises |
en_US |
dc.subject |
Reading and Word Spelling |
en_US |
dc.subject |
Mattra Tua Sakod |
en_US |
dc.subject |
Thai Language Learning |
en_US |
dc.title |
ผลการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ ตามมาตราตัวสะกดกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 |
en_US |
dc.title.alternative |
EFFECTS OF MATTRA TUA SAKOD IN READING AND WRITING WORD SPELLING SKILL EXERCISES OF THAI LANGUAGE LEARNNING STRAND FOR PRATHOMSUKSA 3 STUDENTS |
en_US |
dc.type |
Proceedings |
en_US |