Abstract:
กระบวนการคนหาโจทยวิจัยแบบมีสวนรวมการจัดการภูมิปญญาทองถิ่นเพื่อสรางเสริมสุขภาวะ
ชุมชนบานหวา ตําบลหนองเต็ง อําเภอกระสัง จังหวัดบุรีรัมย มีวัตถุประสงค 2 ประการ คือ 1) เพื่อ
ศึกษาบริบทชุมชนบานหวา 2) เพื่อศึกษากระบวนการมีสวนรวมของคนหาประเด็นภูมิปญญาทองถิ่นที่
ใชในการสรางเสริมสุขภาวะชุมชนบานหวา กลุมตัวอยางที่เปนตัวแทนชุมชนบานหวา ประกอบดวย หมู 5 หมู 9 และหมู 15 ไดแก ผูนําชุมชน ผูอาวุโส ปราชญชาวบาน อสม. ชาวบาน ดวยการวิจัยเชิงพื้นที่(Community-based Research : CBR) ใชกระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีสวนรวม
(Participatory Action Research : PAR) ผลการวิจัยพบวา บริบทชุมชนบานหวาเปนกลุมชนชาติพันธุเขมรที่อพยพมาจากจังหวัดสุรินทรกอตั้งชุมชนมายาวนานกวา 111 ป กลุมชาติพันธุเขมรจะมีความเชื่อในสิ่งเหนือธรรมชาติ การเคารพบรรพบุรุษยึดมั่นในขนบ ธรรมเนียม ประเพณีดั้งเดิม มีผลตอ
ความสัมพันธทางสังคมที่ดี และเอื้ออาทรตอกันมี สถานที่สําคัญที่เชื่อมโยงผูคน ไดแก วัดบานหวา
วัดทุงตะวัน ศาลเจาพอโพธิ์ทอง โรงเรียน แหลงน้ําหนองหวา เปนศูนยรวมกิจกรรมของคนในชุมชน
การคนหาประเด็นภูมิปญญาเพื่อการสรางเสริมสุขภาวะดวยกระบวนการมีสวนรวมเริ่มจากการ
หาทีมนักวิจัยที่เปนคนที่อยูในชุมชน ใชเวทีการประขุมแลกเปลี่ยนสนทนากลุมรวมกันในประเด็นนิยาม
สุขภาวะ บริบทชุมชน ภูมิปญญาทองถิ่นชุมชนบานหวา การคัดเลือกภูมิปญญาเพื่อสรางเสริมสุขภาวะ
ชุมชน ดวยการพิจารณาภูมิปญญาที่เปนภูมิปญญาชุมชนมากกวาภูมิปญญาระดับปจเจก การหารือ
รวมกันของคนในชุมชนจนสามารถเลือกภูมิปญญาที่นานําไปสงเสริมสุขภาวะชุมชน คือ 1) ดนตรี
พื้นบานดวยมีเหตุผลรวมกันที่วาดนตรีสามารถเชื่อมโยงคนหลายวัย หลายกิจกรรมของชุมชน ดนตรีไดนั้นตองใชความสัมพันธเปนกลุมที่สงผลทั้งสุขภาพกาย สุขภาพใจ และสังคม นอกจากนี้ดนตรียังเปนสามารถบําบัดรักษาในพิธีกรรม “รํามะมวด” ที่เปนความเชื่อตอการทํานายตามความเชื่อของชาวเขมรเปนการรักษาผูที่เจ็บปวยอันเนื่องมาจากการทําผิดผีบรรพบุรุษ 2) ประเพณีทองถิ่น เชน แซนโดนตาตามความเชื่อเคารพบรรพบุรุษ ชวงเทศกาลแซนโดนตาชาวบานจะไปทําบุญที่วัด สะทอนใหเห็นวาการไปวัดนั้นมีผลตอจิตใจไปแลวสบายใจโดยเฉพาะการไดทําบุญใหตายายที่เปนบรรพบุรุษ ไดรวมญาติ ยิ่งทําใหมีความสุข เทศกาลออกพรรษา สงกรานต เปนตน