บทคัดย่อ การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ความเข้าใจการอ่านภาษาอังกฤษ ระหว่างหลังเรียนกับก่อนเรียน และความคงทนในการเรียนรู้ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนโดยใช้กลวิธีการอ่านแบบร่วมมือ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 30 คน ใน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2549 โรงเรียนพนมรุ้ง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) โดยการวิจัยในครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลอง มีรูปแบบการวิจัยเป็นการทดลองกลุ่มเดียว ดำเนินการ ทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน (One Group Pretest-Posttest Design) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แผนจัดการเรียนรู้โดยใช้กลวิธีการอ่านแบบร่วมมือ จำนวน 8 แผน และ แบบทดสอบวัดความเข้าใจในการอ่านภาษาอังกฤษ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่า Dependent Sample t-test ผลการวิจัยพบว่า 1. นักเรียนที่เรียนโดยใช้กลวิธีการอ่านแบบร่วมมือ มีผลสัมฤทธิ์ความเข้าใจในการอ่าน ภาษาอังกฤษหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน เพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 27.39 และมีผลสัมฤทธิ์หลังเรียนสูงกว่า ก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางทางสถิติที่ระดับ .01 2.นักเรียนที่เรียนโดยใช้กลวิธีการอ่านแบบร่วมมือเพื่อเพิ่มพูนความเข้าใจในการอ่าน ภาษาอังกฤษ มีความคงทนในการเรียนไม่แตกต่างกัน