Description:
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมาย 1) เพื่อพัฒนากระบวนการคิดแบบสืบเสาะหาความรู้
โดยใช้ชุดสถานการณ์สร้างความสนใจในศูนย์การเรียนวิทยาศาสตร์ เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ ชั้น
มัธยมศึกษาปีที่ 4 2) เพื่อวัดพฤติกรรมกระบวนการคิดแบบสืบเสาะหาความรู้ ของนักเรียนตาม
ขั้นตอน 5 Es (Inquiry Cycle) เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของ
นักเรียนที่ได้รับการสอนกระบวนการคิดแบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้ชุดสถานการณ์สร้างความสนใจ
ในศูนย์การเรียนวิทยาศาสตร์ เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 กลุ่ม
ตัวอย่างที่ใช้ในการทดลองครั้งนี้คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 /9 โรงเรียนนางรอง อำเภอ
นางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา
2552 จำนวน 42 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองได้แก่ชุด
สถานการณ์สร้างความสนใจในศูนย์การเรียนวิทยาศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรู้กระบวนการคิด
แบบสืบเสาะหาความรู้ แบบวัดพฤติกรรมกระบวนการคิดแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 Es แบบวัด
ภาพรวมความสามารถในการคิด แบบสอบถามความพึงพอใจที่มีความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ
.84 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ และการ
ทดสอบสมมติฐานของร้อยละคะแนนหลังเรียนและร้อยละของเกณฑ์ที่ตั้งไว้ โดยใช้ค่าที (t- test)
ผลการวิจัยสรุปได้ว่า
1. นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ 70.30 จำนวนนักเรียนที่มีคะแนนคิดเป็น
ร้อยละ 70 มีจำนวน 29 คน จากจำนวน 42 คน คิดเป็นร้อยละ 69.05 เมื่อเทียบกับเกณฑ์การ
ผ่านที่กำหนดไว้เท่ากับร้อยละ 70 และไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ
2. จำนวนนักเรียนมีพฤติกรรมกระบวนการคิดสืบเสาะหาความรู้ 5 Es ในทุกชุด
สถานการณ์สร้างความสนใจในศูนย์การเรียนวิทยาศาสตร์ เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีภาพรวมผ่านมากกว่าระดับ 3 ขึ้นไป มีค่าเท่ากับ 88.09 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ ร้อยละ70
อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. นักเรียนที่ได้รับการสอนกระบวนการคิดแบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้ชุดสถานการณ์
สร้างความสนใจในศูนย์การเรียนวิทยาศาสตร์ เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ มีความพึงพอใจอยู่ใน
ระดับ มาก คิดเป็นร้อยละ 85.40 และจำนวนนักเรียนที่มีความพึงพอใจอยู่ในระดับ มาก ถึงมากที่สุด
อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05