การศึกษาและสร้างนวัตกรรมที่ใช้แก้ไขมโนทัศน์ที่คลาดเคลื่อนทาง คณิตศาสตร์ในสาระจำนวนและการดำเนินการของนักศึกษาครูคณิตศาสตร์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง

Abstract

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อ 1) ศึกษามโนทัศน์ที่คลาดเคลื่อนทางคณิตศาสตร์ในสาระจำนวนและการดำเนินการของนักศึกษาครูคณิตศาสตร์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2) สร้างนวัตกรรมที่ใช้แก้ไขมโนทัศน์ที่คลาดเคลื่อนทางคณิตศาสตร์ และ 3) เปรียบเทียบผลการวินิจฉัยมโนทัศน์ที่คลาดเคลื่อนทางคณิตศาสตร์ ก่อน-หลัง การใช้นวัตกรรมที่สร้างขึ้น ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักศึกษาครูคณิตศาสตร์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ปีการศึกษา 2558 จำนวน 2,362 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษามโนทัศน์ที่คลาดเคลื่อนทางคณิตศาสตร์ ได้แก่ นักศึกษาครูคณิตศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ปีการศึกษา 2558 จำนวน 333 คน ใช้เทคนิคการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้น เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบวินิจฉัยมโนทัศน์ที่คลาดเคลื่อนทางคณิตศาสตร์ และ บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง จิปาถะระบบจำนวน ผลการวิจัยพบว่า 1) ผลการวินิจฉัยมโนทัศน์ที่คลาดเคลื่อนทางคณิตศาสตร์ในสาระที่ 1 จำนวนและการดำเนินการจากมากไปหาน้อย 5 ลำดับแรก ได้แก่ เศษส่วน (ร้อยละ 100) จำนวนตรรกยะ (ร้อยละ 100) การเปรียบเทียบจำนวน (ร้อยละ 96.67) การดำเนินการ (ร้อยละ 93.33) และเลขยกกำลัง (ร้อยละ 93.33) 2) คณะวิจัยได้สร้างบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง จิปาถะระบบจำนวน เป็นนวัตกรรมที่ใช้แก้ไขมโนทัศน์ที่คลาดเคลื่อนทางคณิตศาสตร์สาระจำนวนและการดำเนินการ ได้ระดับคุณภาพของนวัตกรรมเฉลี่ย 4.48 3) ผลการวินิจฉัยมโนทัศน์ที่คลาดเคลื่อนทางคณิตศาสตร์ของนักศึกษาครูคณิตศาสตร์ หลังการใช้บทเรียนสำเร็จรูป ลดน้อยลงกว่าก่อนการใช้บทเรียนสำเร็จรูป อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 คําสําคัญ : มโนทัศน์ที่คลาดเคลื่อนทางคณิตศาสตร์, การวินิจฉัยมโนทัศน์ที่คลาดเคลื่อนทางคณิตศาสตร์, บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง จิปาถะระบบจำนวน

Abstract

The purpose of this research was to (1) study the Mathematics Misconception in “Number and Operation Strands” of the mathematic Students in the Lower Northeastern Part of Thailand, (2) innovate to correct the Mathematics Misconception and (3) compare the diagnostic Mathematics Misconception of before and after using innovation. The population in this research was 2,362 student’ teachers in Mathematics program who studied in the Lower Northeastern Part of Thailand, academic year 2015. The sample used in the study was 333 student teachers in Mathematics program. Research instruments were diagnostic Mathematics Misconception and programmed lesson “Jipatha rabobjumnou”. The research findings revealed as follows: 1) The diagnostic Mathematics Misconception in “Number and Operation Strands” included fractions (100%) rational number (100%) comparison to number (96.67%) operation (93.33%) and the exponent (93.33%). 2) The researchers have generated programmed lesson “Jipatha abobjumnou” to correct the Mathematics Misconception in “Number and Operation Strands” with quality of 4.48 average. 3) The results of t-test one sample indicated that the diagnostic Mathematics Misconception in “Number and Operation Strands” posttest was lower than pretest at the 0.05 level of significance. Keywords: Mathematics Misconception, Diagnostic Mathematics Misconception, Programmed Lesson “Jipatha rabobjumnou” and Number and Operation Strands