Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมาย 1) เพื่อศึกษาระดับปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการนำนโยบายการกระจายอำนาจการบริหารงานราชการไปปฎิบัติของสถานศึกษาในอีสานใต้ 2) เพื่อศึกษาระดับความสำเร็จในการนำนโยบายการกระจายอำนาจการบริหารงานวิชาการไปปฏิบัติของสถานศึกษาในอีสานใต้ และ 3 ) เพื่อศึกษารูปแบบโครงสร้างการบริหารงานวิชาการไปปฎิบัติของสถานศึกษาในอีสานใต้ กลุ่มตัวอย่างไดแก่ผู้บริหารศึกษาและครูผู้สอน จำนวน 618 คน ซึ่งไดมาโดยวิธีแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นแบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นและซึ่งมีค่าเท่ากับ 0.98 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์รูปแบบโครงสร้างความสัมพันธ์เชิงเส้น ผลการวิจัยที่สำคัญสรุปได้ว่า ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการนำนโยบายการกรกกระจายอำนาจทางการบริหารงานวิชาการ มีอิทธิพลทางตรงแลทางอ้อม ประกอบด้วย 4 ปัจจัย และเรียงลำดับความสำคัญของน้ำหนักองค์ประกอบ คือ ปัจจัยด้านการับรู้วัตถุประสงค์และเป้าหมายปัจจัยด้านภาวะผู้นำของผู้บริหาร ปัจจัยด้านการบริหารแบบมีส่วนร่วม และปัจจัยด่านความพร้อมและการใช้ทรัพยากร ความสำเร็จการปฏิบัติตามนโยบายการกระจายอำนาจการบริหารงานวิชาการอยู่ในระดับมาก และเรียงลำดับดังนี้ ในส่วนร่วมของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ปี การศึกษา 2552 มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 39.58 แลปีการศึกษา2553 มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 39.22 ผลการทดสอบความสอดคล้อง พบว่า รูปแบบโครงสร้างความสัมพันธ์เชิงเส้นของปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการนำนโยบายการกระจายอำนาจการบริหารงานวิชาการไปปฏิบัติของสถานศึกษาในอีสานใต้ มีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ โดยมีค่าไค-สแควร์ ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ ( P-value ) = 0.00 ค่าองศาอิสระ ( df) =146 ค่าความสอดคล้อง (GFI) =0.94 ค่าความสอดคล้องที่ปรับแล้ว ( AGFI) = 0.91 และค่าความคลาดเคลื่อนที่สอดคล้อง ( RMSEA) = 0.05 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความสอดคล้องอยู่ในระดับปานกลาง