Abstract:
บทคัดย่อ การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อศึกษาและเปรียบเทียบสภาพการจัดการศึกษาขององค์การบริหารส่วนตาบลในจังหวัดบุรีรัมย์ ตามความคิดเห็นของนายกองค์การบริหารส่วนตาบล ปลัดองค์การบริหารส่วนตาบล และนักวิชาการศึกษา ที่จาแนกตามวุฒิการศึกษา สถานภาพตาแหน่ง กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ จานวน 339 คน ได้จากการสุ่มจากประชากร โดยการกาหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างตามตารางสาเร็จรูปของเครซี่และมอร์แกน แล้วทาการสุ่มแบบชั้นภูมิ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย เป็นแบบสอบถาม จานวน 1 ฉบับ มี 3 ตอน คือ แบบตรวจสอบรายการ แบบมาตราส่วนประมาณค่า และแบบปลายเปิด มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.9574 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมติฐานโดยใช้ t-test และ F-test เมื่อพบความแตกต่างอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติ จึงทาการทดสอบรายคู่ด้วยวิธีการของเชฟเฟ่ กาหนดค่าสถิติที่ระดับนัยสาคัญ .05 ผลการวิจัยพบว่า
1. สภาพการจัดการศึกษาขององค์การบริหารส่วนตาบลในจังหวัดบุรีรัมย์ ตามความคิดเห็นของนายกองค์การบริหารส่วนตาบล ปลัดองค์การบริหารส่วนตาบล นักวิชาการศึกษา โดยรวมและรายด้านมีการปฏิบัติอยู่ในระดับปานกลางเมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านบุคลากร รองลงมา คือ ด้านบริหารจัดการส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่าสุด คือ ด้านงบประมาณ 2. เปรียบเทียบความคิดเห็นของนายกองค์การบริหารส่วนตาบล ปลัดองค์การบริหารส่วนตาบลและนักวิชาการศึกษา ที่มีสถานภาพตาแหน่งต่างกัน มีความคิดเห็นต่อสภาพการจัดการศึกษาขององค์การบริหารส่วนตาบลในจังหวัดบุรีรัมย์ โดยรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านงบประมาณ แตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนด้านอื่นๆ ไม่แตกต่าง 3. เปรียบเทียบความคิดเห็นของนายกองค์การบริหารส่วนตาบล ปลัดองค์การบริหารส่วนตาบลและนักวิชาการศึกษาที่มีวุฒิการศึกษาต่างกัน มีความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพการจัดการศึกษาขององค์การบริหารส่วนตาบลในจังหวัดบุรีรัมย์ โดยรวมและรายด้านไม่แตกต่างกัน 4. ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของนายกองค์การบริหารส่วนตาบล ปลัดองค์การบริหารส่วนตาบลและนักวิชาการศึกษาที่มีค่าร้อยละสูงสุดจากมากไปน้อยตามลาดับ ได้แก่ ด้านบุคลากร คือ ควรพิจารณาความดีความชอบจากผลงานเพื่อสร้างขวัญกาลังใจในการทางาน ด้านงบประมาณ คือ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นควรจัดสรรงบประมาณเงินอุดหนุนด้านการศึกษาให้มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ ด้านวัสดุ อุปกรณ์และอาคารสถานที่ คือ ควรจัดสรรวัสดุอุปกรณ์การศึกษาให้เพียงพอด้านการบริหารจัดการ คือ ควรให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษามากขึ้น