Abstract:
การวิจัยครั้งนี่มีความมุ่งหมายเพื่อศึกษาและเปรียบเทียบสภาพการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อพัฒนาการเรียนการสอนในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 โดยจำแนกตามสถานภาพตำแหน่งของโรงเรียน ตามขอบเขตการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อพัฒนาการเรียนการสอน คือ ด้านการวางแผนการสอน ด้านการจัดการเรียนการสอนวิชาคอมพิวเตอร์ ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ด้านการผลิตสื่อการเรียนการสอน และด้านการวัดผลปละประเมินผลการสอน กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้บริหารและครู จำนวน 493 คน ซึ่งได้มาจากประชากรโดยกำหนดขนาดตามตารางของเครจซี่และมอร์แกน แล้วสุ่มตามระดับชั้นอย่างมีสัดส่วน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามจำนวน 40 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .9737 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบสมมติฐานใช้ค่า Independent Samples t-test และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว One Way Analysis of Variance เมื่อพบความแตกต่างจึงทำการเปรียบเทียบรายคู่ในคู่แต่ละด้านตามวิธีการของเชฟเฟ่ กำหนดค่าสถิติที่ระดับนัยสำคัญ .05 ผลการวิจัยพบว่า 1. สภาพการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อพัฒนาการเรียนการสอนในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 ตามแนวคิดเห็นของผู้บริหารและครู พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก โดยด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด คือ ด้านการวางแผนการสอน รองลงมา ได้แก่ ด้านการวัดผลและประเมินผล ด้านการจัดการเรียนการสอนวิชาคอมพิวเตอร์ ด้านการผลิตสื่อการเรียนการสอน ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุด คือ ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน 2. การเปรียบเทียบสภาพการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อพัฒนาการเรียนการสอนในโรงเรียนตามความคิดเห็นของผู้บริหารและครู จำแนกตามสถานภาพตำแหน่ง พบว่าผู้บริหารและครูมีความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อพัฒนาการเรียนการสอนในโรงเรียนไม่แตกต่างกัน 3. การเปรียบเทียบสภาพการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อพัฒนาการเรียนการสอนในโรงเรียนตามความคิดเห็นของผู้บริหารและครู จำแนกตามขนาดโรงเรียน พบว่าผู้บริหารและครูที่ปฏิบัติงานในโรงเรียนที่มีขนาดต่างกัน มีความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อพัฒนาการเรียนการสอนในโรงเรียน โดยภาพรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยผู้บริหารและครูที่ปฏิบัติงานครูที่ปฏิบัติงานในโรงเรียนขนาดใหญ่กับขนาดเล็ก ปละผู้บริหารและครูที่ปฏิบัติงานอยู่ในโรงเรียนขนาดใหญ่กับขนาดกลาง มีความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อพัฒนาการเรียนการสอนในโรงเรียน โดยภาพรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนโรงเรียนขนาดกลางกับขนาดเล็กไม่แตกต่างกัน 4. ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับสภาพการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อพัฒนาการเรียนการสอนในโรงเรียน มีความคิดเห็นและข้อเสนอแนะว่า จำนวนเครื่องคอมพิวเตอร์ไม่เพียงพอในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนต่างๆ ทั้งในการเรียนวิชาคอมพิวเตอร์ การวางแผนการสอนการผลิตสื่อ และการใช้เป็นสื่อในกระบวนการเรียนการสอนส่วนใหญ่จะใช้คอมพิวเตอร์ในการจัดทำแผนการเรียนรู้ และทำสื่อการสอนง่ายๆ เช่น ใบความรู้ ใบงาน ครูขาดความรู้ในการใช้คอมพิวเตอร์ในการจัดทำสื่อการเรียนการสอน การวัดผลและประเมินผล การวางแผนการสอน และขาดครูในการจัดการเรียนการสอนวิชาคอมพิวเตอร์ ดังนั้นควรจัดอบรมการใช้คอมพิวเตอร์เบื้องต้น การนำคอมพิวเตอร์มาใช้ในการผลิตสื่อการเรียนการสอน การวัดผลและประเมินผล