พฤติกรรมผู้นำของผู้บริหารสถานศึกษา ในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมาย เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบพฤติกรรมผู้นำขอผู้บริหาร สถานศึกษา ตามความคิดเห็นของครู โดยจำแนกตามประสบการณ์ในการทำงาน และขนาดโรงเรียนที่ปฏิบัติงาน ประชากรได้แก่ ข้าราชการครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 จำนวน 2,466 คน กลุ่มตัวอย่างได้จากการสุ่มประชากรโดยกำหนดขนาดตัวอย่างจากตารางของเครจซี่ และมอร์แกน (R.V.Kerjcie and D.W.Morgan) ได้กลุ่มตัวอย่าง 335 คน แล้วทำการสุ่มตามระดับชั้นอย่างมีสัดส่วน (Proportinal Stratified Random Sampling) เครื่องมือที่ ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล เป็นแบบสอบถามซึ่งเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และเปรียบเทียบความแตกต่างความคิดเห็นต่อพฤติกรรมผู้นำของผู้บริหารสถานศึกษา โดยใช้การทดสอบค่า (t-test) และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One – way Analysis of Variance) ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ .05 และถ้าพบความแตกต่างของค่าเฉลี่ย จะวิเคราะห์หาความแตกต่างเป็นรายคู่ ตามวิธีการของเชฟเฟ่ (Scheffe ‘ s Method) ผลการวิจัยพบว่า 1. พฤติกรรมนำของผู้นำของผู้บริหารสถานศึกษา ความคิดเห็นของครู ทั้งโดยรวมและ รายด้านอยู่ในระดับปานกลาง โดยด้านมิติมุ่งงานมีพฤติกรรมอยู่ในระดับมาก และมิติมุ่งพันธ์อยู่ในระดับปานกลาง 2. พฤติกรรมผู้นำของผู้บริหารสถานศึกษา ตามความคิดเห็นของครู จำแนกตาม ประสบาการ์ณในการทำงาน พบว่าครูที่มีประสบการณ์น้อยกว่า 15 ปี และประสบการณ์ตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป มีความคิดเห็นไม่แตกต่างกัน 3. พฤติกรรมผู้นำของผู้บริหารสถานศึกษา ตามความคิดเห็นของครู จำแนกตามขนาด ของโรงเรียนที่ปฏิบัติงาน คือโรงเรียนขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ พบว่ามีความคิดเห็น 4. ข้อเสนอแนะของครูทีมีต่อพฤติกรรมผู้นำของผู้บริหารสถานศึกษา