Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายดังนี้ 1) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของชุดการเรียนรู้ เรื่องกฎหมายน่ารู้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้ชุดการเรียนรู้ เรื่องกฎหมายน่ารู้ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 3)เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลของชุดการเรียนรู้ เรื่องกฎหมายน่ารู้สำหรับนักเรียนชั้นปีที่3 และ4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่3ที่มีต่อชุดการเรียนรู้เรื่อง กฎหมายน่ารู้ กลุ่มตัวอย่างได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกาาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านนางรอง อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมยื สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมยื เขต 3 จำนวน1 ห้องเรียน จำนวน21 คน ที่เลือกเรียนสาระเพิ่มเติม วิชากฎหมายน่ารู้ ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling)ซึ่งผู้วิจัยเป็นผู้สอนประจำวิชา ทดลองการใช้ชุดการเรียนรู้ ในภาคเรียนรู้ที่ 1ปีการศึกษา2552 ระยะเวลาที่ใช้ในการทดลอง 6 สัปดาห์ๆ ละ 2 คาบ รวมระยะเวลา 12 คาบ เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ 1ป แผนการจัดการการเรียนรู้2ป ชุดการเรียนรู้ 3)แบบทดสอบวัดสัมฤทธิ์ทางการเรียน และ4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมติฐาน โดยใช้สูตรE1/E2 E.I. และสถิติทดสอบที T-Test ผลการวิจัยพบว่า 1. ชุดการเรียนรู้ เรื่อง กฎหมายน่ารู้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพ 84.76/84.88 2. ผลสัมฤทธิ์การเรียนของนักเรียน โดยใช้ชุดการเรียนรู้ เรื่องกำหมายน่ารู้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่้ 3 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 3. ค่าดัชนีประสิทธิผลของชุดการเรียนรู้ เรื่อง กฎหมายน่ารู้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีค่าร้อยละ 70 4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยชุดการเรียนรู้ เรื่อง กฎหมายน่ารู้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 อยู่ในระดับมาก