Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อศึกษาและเปรียบเทียบสภาพการดำเนินงานห้องสมุดโรงเรียนมัธยมศึกษาตามความคิดเห็นของผู้บริหาร ครูบรรณารักษ์และครูผู้สอน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 32 จำแนกตามสถานภาพตำแหน่ง คุณวุฒิการศึกษา และขนาดของโรงเรียน กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 470 คน ได้มาจากการกำหนดขนาดกลุ่มตามตารางของเครจซี่และมอร์แกน ประกอบด้วย ผู้บริหาร และครูบรรณารักษ์ ซึ่งให้ประชากร ส่วนครูผู้สอนใช้การสุ่มแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามมี 3 ลักษณะ คือแบบตรวจสอบรายการ แบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ และ แบบปลายเปิด มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.8898 และวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมติฐานใช้ค่าt-test F-test และการเปรียบเทียบเพื่อหาความแตกต่างเป็นรายคู่ด้วยวิธีการของเชฟเฟ่ โดยกำหนดค่าสถิติที่ระดับนัยสำคัญ .05 ผลการวิจัยพบว่า 1.สภาพการดำเนินงานห้องสมุดโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 32 ตามความคิดเห็นของผู้บริหาร ครูบรรณารักษ์ และครูผู้สอน โดยรวมมีการปฏิบัติอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ทุกด้านมีการปฏิบัติอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ทุกด้านมีการปฏิบัติอยู่ในระดับปานกลาง โดยด้านการบริหารมีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมา คือ ด้านงานเทคนิค ส่วนด้านงานบริการและกิจกรรมมีค่าเฉลี่ยต่ำสุดตามลำดับ 2.การเปรียบเทียบสภาพการดำเนินงานห้องสมุดโรงเรียน ตามความคิดเห็นของผู้บริหาร ครูบรรณารักษ์ และครูผู้สอน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 32 ที่มีต่อการสภาพการดำเนินงานห้องสมุดโรงเรียน จำแนกตามคุณวุฒิการศึกษา โดยรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ด้านการบริหาร แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ส่วนด้านอื่นๆไม่แตกต่างกัน 3.การเปรียบเทียบสภาพการดำเนินงานห้องสมุดโรงเรียนตามความคิดเห็นของผู้บริหาร ครูบรรณารักษ์ และครูผู้สอน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 32 จำแนกตามสถานภาพตำแหน่ง และจำแนกตามขนาดโรงเรียน โดยรวมและรายด้านไม่แตกต่างกัน 4.ข้อเสนอที่เกี่ยวข้องกับสภาพการดำเนินงานห้องสมุดโรงเรียนตามความคิดเห็นของผู้บริหาร ครูบรรณารักษ์ และครูผู้สอน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 32 ที่มีจำนวนมากที่สุด ดังนี้ ห้องสมุดต้องมีที่ตั้งเป็นเอกเทศ และการจัดสรรงบประมาณที่ใช้ในการบริหารของห้องสมุดน้อยไม่พอเพียง รองลงมา คือ อากาศภายในห้องสมุดสามารถถ่ายเท สะดวก ปลอดโปร่ง และ จำนวนโต๊ะ-เก้าอี้ที่ให้บริการผู้ใช้ไม่เพียงพอ ตามลำดับ