Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อศึกษาและเปรียบเทียบแรงจูงใจในการเลือกเรียนโปรแกรมวิชาวิทยาศาสตร์การกีฬาและการออกกำลังกายของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมาด้านชื่อเสียงของสถาบัน ด้านความถนัดและความสนใจในวิชาชีพ ด้านสังคมและด้านการทำตามความต้องการของบุคคลที่เกี่ยวข้อง โดยรวมและในแต่ละด้าน จำแนกตามตัวแปร เพศ ชั้นปี ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน อาชีพของบิดา มารดา หรือผู้ปกครอง และฐานะทางเศรษฐกิจของครอบครัว กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ ในครั้งนี้เป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรี โปรแกรมวิชาวิทยาศาสตร์การกีฬาและการออกกำลังกาย มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ภาคการศึกษาที่ 1 ปีการศึกษา 2556 จำนวน 194 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 40 ข้อมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .90 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าคะแนนเฉลี่ย ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบที การวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบทางเดียว ผลการวิจัยพบว่า 1) นักศึกษามีแรงจูงใจในการเข้าศึกษาต่อโปรแกรมวิชาวิทยาศาสตร์การกีฬาและการออกกำลังกาย มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา โดยรวมและในแต่ละด้านในระดับมาก 2) นักศึกษาชายและนักศึกษาหญิง มีแรงจูงใจในการเข้าศึกษาต่อ โดยรวมและในแต่ละด้านแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ยกเว้นด้านสังคม ไม่พบความแตกต่าง 3) นักศึกษาที่ศึกษาในชั้นปีต่างกัน มีแรงจูงใจในการเข้าศึกษาต่อ โดยรวมและในแต่ละด้าน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 4) นักศึกษาที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่างกัน มีแรงจูงใจในการเข้าศึกษาต่อ โดยรวมและในแต่ละด้านแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 5) นักศึกษาที่อาชีพของผู้ปกครองต่างกัน มีแรงจูงใจในการเข้าศึกษาต่อ โดยรวมและในแต่ละด้านแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ 6) นักศึกษาที่ฐานะทางเศรษฐกิจของครอบครัวต่างกัน มีแรงจูงใจในการเข้าศึกษาต่อ โดยรวม และในแต่ละด้านแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05จากผลการวิจัยสามารถสรุปได้ว่า นักศึกษามีแรงจูงใจในการเข้าศึกษาต่อโปรแกรมวิชาวิทยาศาสตร์การกีฬาและการออกกำลังกาย มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา โดยรวมและในแต่ละด้านในระดับมาก และเมื่อเปรียบเทียบแรงจูงใจในการเลือกเรียนโปรแกรมวิชาวิทยาศาสตร์การกีฬาและการออกกำลังกายโดยเปรียบเทียบตามข้อมูลพื้นฐานของนักศึกษา พบว่า ชั้นปี ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน อาชีพของผู้ปกครอง และฐานะทางเศรษฐกิจของครอบครัว โดยรวมและในแต่ละด้านแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ยกเว้น เพศ ในด้านสังคม ไม่พบความแตกต่าง