Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) ศึกษาประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้เรื่องการคูณ โดยใช้เกมการละเล่นพื้นบ้าน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการเรียน เรื่องการคูณ โดยใช้เกมการละเล่นพื้นบ้าน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 3) ศึกษาค่าดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้โดยใช้เกมการละเล่นพื้นบ้าย เรื่องการคูณ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 และศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการเรียนเรื่องการคูณ โดยใช้เกมการละเล่นพื้นบ้าน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการทดลองครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนวราวัฒนา อำเภอโนนสุวรรณ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2552 นักเรียนทั้งหมด 20 คน ชาย 10 คน หญิง 10 คน เพื่อใช้เป็นกลุ่มทดลองได้มาจากการสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้มดลอง ๆด้แก่ แกมการละเล่าพื้นบ้าน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 10 แผน แบบทดสอบย่อย 10 ชุด แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ซึ่งมีความยาก (P) ตั้งแต่ 0.40 – 0.80 ค่าอำนาจจำแนก (B) ตั้งแต่ 0.2 – 0.60 ค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับ เท่ากับ 0.905 และแบบทดสอบความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า 1. ประสิทธิภาพทางการเรียนเรื่องการคูณ โดยใช้เกมการละเล่นพื้นบ้าน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 พบว่ามีประสิทธิภาพ 83.5/81.00 2. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนเรื่องการคูณ โดยใช้เกมการละเล่นพื้นบ้านมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนเฉลี่ยสูงกหว่าก่อนเรียน ร้อยละ 44.35 3. ผลการวิเคราะห์ค่าดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้โดยใช้เกมการละเล่นพื้นบ้านเรื่องการคูณ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 พบว่าค่าดัชนีประสิทธิผล มีการพัฒนาเพิ่มขึ้นร้อยละ 70.04 4. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีความพึงพอใจต่อการเรียนเรื่องการคูณ โดยใช้เกมการละเล่นพื้นบ้าน อยู่ในระดับมาก งานวิจัยทำให้เห็นว่าการละเล่นพื้นบ้าน นอกจากแสดงความเป็นไทยแล้วยังช่วยให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ ในวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องการคูณที่มีผลลัพธ์ไม่เกิน 1,000 อีกด้วย