Abstract:
การวิจัยครั้งนี้ มีความมุ่งหมายเพื่อศึกษาและเปรียบเทียบสภาพการดำเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์เขต 4 ตามแนวทางที่สำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐานกำหนดใน 5 ประการ ได้แก่ ด้านการรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล ด้านการคัดกรองนักเรียน ด้านการส่งเสริมและพัฒนานักเรียน ด้านการป้องกันช่วยเหลือและแก่ไข และด้านการส่งต่อนักเรียน โดยจำแนกตามสถานภาพตำแหน่ง และขนาดของสถานศึกษา กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอน จำนวน 341 คน โดยการสุ่มแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถาม มี 3 ลักษณะคือ แบบตรวจสอบรายการ แบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ และแบบปลายเปิด มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .9238 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมติฐาน โดยใช้การทดสองค่าที (T-test) และการทดสอบค่าเอฟ (F-test) เมื่อพบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติจะนำไปทดสอบความแตกต่างเป็นรายคู่ตามวิธีการของเชฟเฟ กำหนดค่าสถิติ ที่ระดับนัยสำคัญ .05 ผลการวิจัยพบว่า 1.สภาพการดำเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์เขต 4 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาแต่ละด้านพบว่า อยู่ในระดับมากทุกด้าน โดยด้านที่มีค่าความเฉลี่ยสูงสุดคือ ด้านการคัดกรองนักเรียน รองลงมาคือ ด้านการส่งเสริมและการพัฒนานักเรียน ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ ด้านการส่งต่อนักเรียน 2.การเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอนเกี่ยวกับสภาพการดำเนินงานระบบการดูแลความช่วยเหลือนักเรียนในสถานศึกษา จำแนกตามสถานภาพตำแหน่ง มีความคิดเห็นโดยรวมและรายด้านทุกด้านแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 เมื่อจำแนกตามขนาดสถานศึกษา มีความคิดเห็นโดยภาพรวมและรายด้านไม่แตกต่างกัน 3.ผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอนได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาและอุปสรรค การดำเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนในสถานศึกษา ที่มีจำนวนมากที่สุด คือ โรงเรียนครูที่ปรึกษาไม่เพียงพอส่งผลให้ขาดการดูแลนักเรียนที่ต่อเนื่องและทั่วถึง รองลงมาคือ ครู นักเรียน ในสถานศึกษา ขาดความรู้ที่ชัดเจนในด้านระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ส่วนข้อเสนอแนะที่มีจำนวนมากที่สุด คือ โรงเรียนควรจัดครูที่ปรึกษาได้ดูแลนักเรียนอย่างต่อเนื่องทั่วถึง รองลงมา คือ ควรจัดทำคู่มือ จัดอบรมครู นักเรียนในสถานศึกษา ด้านระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน