dc.contributor.author |
วณิชา แผลงรักษา, ปิติวรรณ ฝ้ายโคกสูง, กิตติคุณ บุญเกตุ |
|
dc.date.accessioned |
2021-09-08T13:11:40Z |
|
dc.date.available |
2021-09-08T13:11:40Z |
|
dc.date.issued |
2563-10-10 |
|
dc.identifier.citation |
งานประชุมวิชาการท่องเที่ยวระดับชาติ ครั้งที่ 6 "การท่องเที่ยววิถีปกติใหม่ (New Normal) สู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก |
en_US |
dc.identifier.uri |
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/7746 |
|
dc.description.abstract |
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาพฤติกรรมและการรับรู้สื่อของนักท่องเที่ยวชาวไทยต่อการท่องเที่ยวเมืองกีฬากรณีศึกษาจังหวัดบุรีรัมย์ 2) เพื่อเปรียบเทียบพฤติกรรมและการรับรู้สื่อของนักท่องเที่ยวชาวไทยต่อการท่องเที่ยวเมืองกีฬากรณีศึกษาจังหวัดบุรีรัมย์ จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาวิจัย ได้แก่ นักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 100 คน โดยเลือกมาแบบบังเอิญ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบสอบถามปลายปิด พบว่า ส่วนใหญ่ นักท่องเที่ยวชาวไทยส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุระหว่าง 31-40 ปี สถานภาพโสด มีการศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรี ส่วนใหญ่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนอยู่ในช่วง 20,000-25,000 บาท และมีอาชีพธุรกิจส่วนตัว
ผลการศึกษาพฤติกรรมการท่องเที่ยว พบว่า ส่วนใหญ่มีความสนใจแหล่งท่องเที่ยวเชิงกีฬา เช่น สนามฟุตบอลช้างอารีน่าเป็นสถานที่ดึงดูดในการเดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดบุรีรัมย์ คิดเป็นร้อยละ 47 มีครอบครัวเป็นส่วนร่วมในการตัดสินใจมาท่องเที่ยว คิดเป็นร้อยละ 37 มีวัตถุประสงค์เพื่อพักผ่อน คิดเป็นร้อยละ 67 เดินทางมากับครอบครัว คิดเป็นร้อยละ 47 เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว คิดเป็นร้อยละ 87 เคยเดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดบุรีรัมย์ 2 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 35 มีช่วง วันเสาร์ - วันอาทิตย์ เป็นวันที่เหมาะสมต่อเดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดบุรีรัมย์ คิดเป็นร้อยละ 74 มีค่าใช้จ่าย มากกว่า 1,500 บาท ในการเดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดบุรีรัมย์ต่อครั้ง คิดเป็นร้อยละ 58 ใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าน้ำมันเชื้อเพลิง คิดเป็นร้อยละ 48 ใช้ระยะเวลาในการมาท่องเที่ยวจังหวัดบุรีรัมย์ ไปเช้า – เย็นกลับ กับ ค้างคืน คิดเป็นร้อยละ 40 เฟสบุ๊คเป็นสื่อที่มีอิทธิพลต่อการรู้จักแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดบุรีรัมย์ คิดเป็นร้อยละ 21.50 มีโอกาสจะกลับมาท่องเที่ยวจังหวัดบุรีรัมย์ คิดเป็นร้อยละ 100 มีวัตถุประสงค์ในการใช้งานเทคโนโลยีเพื่อค้นหาเส้นทาง คิดเป็นร้อยละ 25.10 และส่วนใหญ่ใช้สมาร์ทโฟนในการรับรู้สื่อหรือใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศ คิดเป็นร้อยละ 49.00
ผลการศึกษาความพึงพอใจโดยรวมทุกด้าน นักท่องเที่ยวชาวไทยมีความพึงพอใจต่อการท่องเที่ยวเมืองกีฬา กรณีศึกษาจังหวัดบุรีรัมย์ โดยรวมทุกด้านอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า นักท่องเที่ยวชาวไทยมีความพึงพอใจต่อการท่องเที่ยวเมืองกีฬา กรณีศึกษาจังหวัดบุรีรัมย์ โดยรวมทุกด้านอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านที่มีความพึงพอใจมากที่สุด คือ ด้านด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รองลงมา คือ ด้านวัฒนธรรม และวิถีชีวิต ด้านสถานที่และการเข้าถึง และน้อยที่สุด คือ ด้านด้านราคาสินค้าและบริการ |
en_US |
dc.publisher |
มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ |
en_US |
dc.subject |
พฤติกรรมนักท่องเที่ยว/การรับรู้สื่อ/การท่องเที่ยวเมืองกีฬา |
en_US |
dc.title |
การศึกษาพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวชาวไทยที่มีต่อการท่องเที่ยวเมืองกีฬาในจังหวัดบุรีรัมย์ |
en_US |
dc.title.alternative |
A Study of Thai Tourists Behavior toward Sports City Tourism in Buriram Province |
en_US |
dc.type |
Article |
en_US |
dc.contributor.emailauthor |
wanicha.pr@bru.ac.th, pitiwan03@gmail.com, kittikoon.bk@bru.ac.th |
en_US |