การทดสอบฤทธิ์ทางชีวภาพของสารนาโนอินทรีย์ นาโนโลหะอินทรีย์ต้านหนอนกอ

Abstract

นาโนเทคโนโลยีเป็นเทคโนโลยีที่เป็นความหวังใหม่ของมวลมนุษย์ชาติ ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ ได้อย่างมากมายหลากหลายมากขึ้น การนำนาโนเทคโนโลยีมาใช้ประโยชน์เป็นการบูรณาการศาสตร์หลายแขนงเข้าด้วยกัน งานวิจัยนี้จึงมีวัตถุประสงค์ เพื่อเพิ่มฤทธิ์สารสกัดผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติไซลิงกอลดีไฮด์ โดยการสังเคราะห์อนุพันธ์ ไซลิงกอลดีไฮด์ และควบคุมขนาดอนุภาคของสารให้อยู่ในระดับนาโนเมตร ได้สารที่เป็นนาโนอินทรีย์ และ นาโนโลหะอินทรีย์ 6 ชนิด คือ สาร L1, L2 C1, C2, C3 และ C4 แล้วนำสารทั้ง 6 ชนิด มาศึกษาสมบัติทางเคมีเชิงฟิสิกส์ ทดสอบฤทธิ์ทางชีวภาพโดยการต้านอนุมูลอิสระด้วยเทคนิค 2,2 Diphenyl-1-picrylhydrazyl radical (DPPH) และ Ferric reducing/antioxidant power (FRAP) ทดสอบความสามารถในการต้านเชื้อแบคทีเรีย E.coli., Salmonella และ Staphylococcus aureus และทดสอบฤทธิ์การต้านหนอนกอในนาข้าว พบว่า สาร L2 มีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระด้วยวิธี DPPH ออกฤทธิ์ได้ดีด้วยค่า IC50 ที่ต่ำในระดับ 51.109 มิลลิกรัม/ลิตร ความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระด้วยวิธี FRAP พบว่า สารที่มีความสามารถในการรีดิวซ์ Fe3+ ไปเป็น Fe2+ได้มากที่สุด คือ สาร L1 ความสามารถใน การต้านการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย พบว่า สาร C1, C2, C3 และ C4 สามารถต้าน การเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ชนิด E.coli., Salmonella และ Staphylococcus aureus ได้ดี และความสามารถในการต้านหนอนกอในนาข้าว พบว่า สาร C1 C2 C3 และ C4 สามารถต้านหนอนกอได้ดีที่ความเข้มข้นตั้งแต่ 20, 40, 60, 80 และ 100 ppm ตามลำดับ สาร C1 C2 C3 และ C4 จึงควรมีการพัฒนาเป็นสารชีวภาพในระดับอุตสาหกรรม เพื่อลดใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายต่อร่างกายของมนุษย์และสิ่งแวดล้อมและหันมาใช้สารชีวภาพที่เป็นมิตรต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมต่อไป

Nanotechnology is the new hope of humanity to make it beneficial in various aspects. Nano utilization is the integration of many sciences. This research aimed to increase the effective extracts from natural sites syringaldehyde by synthesis of syringaldehyde derivative site, and control the size of the material particles in nanometer range. Six species of Nano-organic compound and Nano-organometallic compound, L1, L2, C1, C2, C3 and C4 are found. Then the six species were biological tested of antioxidant, activity using the technique of 2,2 Diphenyl-1-picrylhydrazyl radical (DPPH) and Ferric reducing / antioxidant power (FRAP). They were tested to check the ability on the antiseptic, E.coli., Salmonella and Staphylococcus aureus and also tested to check the ability on antioxidant against Chilo polychrysus (Meyrick). It was revealed that L2 was able to well conduct antioxidant by DPPH method at the low level of IC50 valued 51.109 mg / liter. The ability to conduct antioxidant by FRAP method was found that L1 was able to well reduce from Fe3+ to Fe2+. The the ability to stop bacteria growth, it was found that C1, C2, C3 and C4 were able to well stop growth of the bacteria, E.coli., Salmonella and Staphylococcus aureus. And the ability to resist Chilo polychrysus (Meyrick), it was found that C1, C2, C3 and C4 were able to well resist Chilo polychrysus (Meyrick) at the concentration rang of 20, 40, 60, 80 and 100 ppm, respectively. The compounds C1, C2, C3 and C4 should be developed as biological agents to reduce chemical utilization, considered harmful to humans and environment. The compounds are therefore utilized as eco-friendly products.