ระบบคลังข้อมูลทางวิชาการ BRU

การพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษโดยใช้กลุ่มร่วมมือกันเรียนรู้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

Show simple item record

dc.contributor.author จารุชา, เมฆะสุวรรณ์
dc.date.accessioned 2017-10-09T08:15:16Z
dc.date.available 2017-10-09T08:15:16Z
dc.date.issued 2016
dc.identifier.citation การประชุมวิชาการระดับชาติและนานาชาติ "ราชภัฏวิจัยครั้งที่ 4" en_US
dc.identifier.uri http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/2927
dc.description เรียนสูงขึ้น เพื่อใช้ไปพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนเพื่อ การสอนทักษะการอ่านภาษาอังกฤษแก่นักเรียนยังไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร ซึ่งอาจ เนื่องมาจาก เนื้อหาที่นำมาใช้สอนอ่านเป็นเรื่องที่ไกลตัวหรือไม่คุ้นเคย ส่งผลให้นักเรียน เข้าใจเนื้อหานั้นได้ยาก ดังนั้น การเลือกเนื้อหามาเป็นสื่อในการพัฒนาทักษะการอ่าน จะ ช่วยให้นักเรียนเข้าใจเนื้อหาได้ง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพ ผู้วิจัยจึงมีความสนใจที่จะพัฒนา แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนด้วยบทอ่านโดยการใช้แบบฝึกทักษะการ เรียนรู้แบบร่วมมือกันเรียนรู้ ซึ่งเป็นการวิจัยปฏิบัติการแบบร่วมมือ (Collaborative Action Research) โดยยึดหลักการของ เคมมิสและ แมคแทคการ์ท ( Kemmis and McTaggart ) มีความมุ่งหมายเพื่อ (1) พัฒนาแบบฝึกทักษะ การอ่านภาษาอังกฤษแบบ กลุ่มร่วมมือกันเรียนรู้ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 (2) เพื่อพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้และ เอกสารประกอบการอ่านที่มีประสิทธิภาพ 70/70 (3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทาง การ เรียนแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษโดยใช้การเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือกันเรียนรู้ (STAD) ชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 5 ก่อนและหลังเรียน และ (4) ศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะ การอ่านภาษาอังกฤษโดยใช้การเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือกันเรียนรู้ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มเป้าหมายและ ให้ข้อมูลในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/4 โรงเรียน นางรอง อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ สำนักงานเขตพื้นที่บุรีรัมย์ เขต 3 ภาคเรียนที่ 1/2552 จำนวน 45 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบ ฝึกทักษะ แบบทดสอบ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบสังเกต แบบ สัมภาษณ์ แบบประเมินการทำงานกลุ่ม แบบบันทึกประจำวัน และ แบบบันทึกการสังเกต พฤติกรรมนักเรียน สถิติที่ใช้ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ร้อยละ ดัชนี ประสิทธิผล และการทดสอบสมมุติฐานใช้ t-test (Dependent Samples) ผลการวิจัยที่คาด ว่าจะได้รับมีดังต่อไปนี้ การพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษโดยใช้กลุ่มร่วมมือกันเรียนรู้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ผลการวิจัยที่คาดว่าจะได้รับมีดังต่อไปนี้ 1. ผู้วิจัยและผู้ช่วยวิจัยได้นำข้อมูลจากการประเมินการทำงานกลุ่ม การสังเกต การสัมภาษณ์นักเรียนและการบันทึกประจำวันมาร่วมกันวิเคราะห์เมื่อเสร็จสิ้นแต่ละวงจร ปฏิบัติการในการสะท้อนผลเพื่อปรับปรุงในแต่ละวงจรปฏิบัติการ ในภาพรวม วงจรปฏิบัติการ ที่ 1 – 2 นักเรียนให้ความร่วมมือในการทำงานรับผิดชอบในกิจกรรม สมาชิกในกลุ่มมีการ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในกลุ่ม กล้าแสดงความคิดเห็น และ นำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน นักเรียนให้ความช่วยเหลือกันทำงาน สามารถส่งงานทันตามกำหนดเวลา นักเรียนในกลุ่มมี ความรับผิดชอบร่วมกันและมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้น 2. การพัฒนาแบบฝึกทักษะการเรียนรู้และเอกสารประกอบการอ่าน ภาษาอังกฤษที่มีเนื้อหา การอ่านโดยใช้การเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือกันเรียนรู้ มีประสิทธิภาพ 87.59/82.00 ซึ่งคาดว่าจะได้ทราบผล สูงกว่าเกณฑ์ 70/70 ที่ตั้งไว้ 3.นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ทักษะการอ่านภาษาอังกฤษโดยใช้แบบฝึก ทักษะกลุ่มร่วมมือกันเรียนรู้ คาดว่าจะได้ทราบผล หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน 4. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษที่มีเนื้อหาการอ่านสำหรับชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5 แบบร่วมมือกันเรียนรู้ มีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ .6338 หมายความว่าผู้เรียนมี ความรู้เพิ่มขึ้น ร้อยละ 63.38 5. นักเรียนที่ได้รับการสอนโดยใช้การเรียนรู้แบบฝึกทักษะกลุ่มร่วมมือกันเรียนรู้ มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก โดยภาพรวมคาดว่า การพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษโดยใช้กลุ่มร่วมมือกันเรียนรู้ ทำให้นักเรียนมีทักษะในการอ่านภาษาอังกฤษดีขึ้น และมีผลสัมฤทธิ์ทางการให้บรรลุ วัตถุประสงค์การเรียนรู้สืบไป en_US
dc.publisher มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ en_US
dc.subject การเรียนรู้แบบร่วมมือ แบบฝึกทักษะ en_US
dc.title การพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษโดยใช้กลุ่มร่วมมือกันเรียนรู้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 en_US
dc.type Proceedings en_US


Files in this item

This item appears in the following Collection(s)

Show simple item record

Search DSpace


Advanced Search

Browse

My Account

Statistics