dc.contributor.author |
ปาริชาติ, ชูปฏิบัติ |
|
dc.date.accessioned |
2017-09-27T07:25:08Z |
|
dc.date.available |
2017-09-27T07:25:08Z |
|
dc.date.issued |
2016 |
|
dc.identifier.citation |
การประชุมวิชาการระดับชาติและนานาชาติ "ราชภัฏวิจัยครั้งที่ 4" |
en_US |
dc.identifier.uri |
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/2449 |
|
dc.description.abstract |
บทคัดย่อ การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ 1) ศึกษาภาวะผู้นาของผู้บริหารสถานศึกษาสตรี ตามความคิดเห็นของครูใน
โรงเรียน สังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 1 และ 2) เปรียบเทียบความคิดเห็นของครู ต่อภาวะผู้นาของ
ผู้บริหารสถานศึกษาสตรีในโรงเรียนสังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 1 จาแนกตามเพศ วุฒิการศึกษาและ
ประสบการณ์ในการทางาน ประชากร ที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ได้แก่ ครูในโรงเรียน สังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์
เขต 1 ปีการศึกษา 2553 ที่มีผู้บริหารสถานศึกษาสตรี จานวน 22โรงเรียนรวมทั้งสิ้น 722 คน กลุ่มตัวอย่าง ใช้การกาหนด
ขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้เกณฑ์ร้อยละ 25 จากประชากร ได้กลุ่มตัวอย่าง จานวน 180 คน แล้วทาการสุ่มด้วยวิธีการสุ่ม
อย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย เป็นแบบสอบถามแบ่งออกเป็น 3 ลักษณะ คือ แบบตรวจสอบรายการ แบบมาตราส่วน
ประมาณค่า 5 ระดับ และ แบบสอบถามปลายเปิด แบบสอบถามมีค่าอานาจจาแนกเป็นรายข้อ อยู่ระหว่าง 1.798 – 5.298
มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ 0.9865 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การแจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบน
มาตรฐาน การทดสอบสมมุติฐานโดยการใช้ค่า Independent Samples t-test และการวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบ
ทางเดียว เมื่อพบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยในแต่ละด้าน จะทาการเปรียบเทียบความแตกต่างเป็นรายคู่ ตามวิธีการของเชฟ
เฟ่ โดยกาหนดค่าสถิติที่ระดับนัยสาคัญที่ .05 ผลการวิจัยพบว่า
1. ภาวะผู้นาของผู้บริหารสถานศึกษาสตรีตามความคิดเห็นของครูในโรงเรียน โดยรวมอยู่ในระดับมาก โดยด้านกิจ
สัมพันธ์ มีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมา ได้แก่ ด้านประสิทธิผล และด้านมิตรสัมพันธ์ ตามลาดับ
2. การเปรียบเทียบความคิดเห็นของครูต่อภาวะผู้นาของผู้บริหารสถานศึกษาสตรี จาแนกตามเพศ วุฒิการศึกษา
และประสบการณ์ในการทางาน มีความคิดเห็นเกี่ยวกับภาวะผู้นาของผู้บริหารสถานศึกษาสตรีในโรงเรียน สังกัดสานักงานเขต
พื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 1 โดยรวมและรายด้าน ไม่แตกต่างกัน
3. ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่มีจานวนมากที่สุด คือ ด้านมิตรสัมพันธ์ ควรมีวิธีการสร้างแรงจูงใจให้ผู้ร่วมงาน
แต่ละคนอย่างหลากหลาย รองลงมา ด้านประสิทธิผล ควรมีความเฉลียวฉลาด สามารถแก้ปัญหา นาข้อมูลสารสนเทศมา
ปรับปรุง พัฒนางานได้ และด้านกิจสัมพันธ์ ควรมีความรอบรู้ด้านวิชาการ และนิเทศ กากับติดตามงานอย่างต่อเนื่อง
ตามลาดับ |
en_US |
dc.publisher |
มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ |
en_US |
dc.subject |
ภาวะผู้นา |
en_US |
dc.subject |
ผู้บริหารสถานศึกษาสตรี,ความคิดเห็นของครู |
en_US |
dc.title |
ภาวะผู้นาของผู้บริหารสถานศึกษาสตรีในโรงเรียนสังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 1 |
en_US |
dc.type |
Article |
en_US |