บทคัดย่อ การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมาย เพื่อ 1) พัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้เรื่องการอ่าน ภาษาไทยเชิงวิเคราะห์ โดยใช้แบบฝึกทักษะ 11 ลักษณะการคิด สำหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ให้มี ประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 และมีค่าดัชนีประสิทธิผลตั้งแต่ 0.50 ขึ้นไป 2) เปรียบเทียบ ผลสัมฤทธิ์การอ่านเชิงวิเคราะห์ ระหว่างคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียน และ 3) ศึกษาความพึงพอใจ ของนักเรียนหลังจากเรียนจากแผนการจัดการเรียนรู้เรื่องการอ่านเชิงวิเคราะห์ ศึกษาจากประชากร นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านโคกวัด สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2550 เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาคือ แผนการจัดการเรียนรู้เรื่อง แบบฝึก ทักษะการคิด แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ซึ่งมีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ .52 ถึง .73 ค่า ความยากง่ายระหว่าง .34 ถึง .56 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับที่ .802 และแบบสอบถามความพึง พอใจนักเรียน มีค่าความเชื่อมั่นที่ .843 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้คอมพิวเตอร์โปรแกรมสำเร็จรูป ใช้สถิติ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าดัชนีประสิทธิภาพ ค่าดัชนีประสิทธิผล และเปรียบเทียบ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน โดยการทดสอบ t-test ผลการวิจัยพบว่า 4. แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการคิด ที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพเท่ากับ เกณฑ์ 82.26/81.10 และมีค่าดัชนีประสิทธิผลด้านการอ่านเชิงวิเคราะห์ เท่ากับ .58 แสดงว่านักเรียน มีความรู้เพิ่มขึ้นร้อยละ 58 P17 การประชุมเสนอผลงานวิจัยระดับบัณฑิตศึกษา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ครั้งที่ 1 บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ 2550 443 5. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านการอ่านเชิงวิเคราะห์ของนักเรียนที่เรียนด้วยแผนการ จัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการคิดหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ ระดับ .01 6. นักเรียนที่เรียนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการคิดมีความพึง พอใจโดยรวมในระดับมาก คำสำคัญ : การสอนภาษาไทย, การคิดเชิงวิเคราะห์, แบบฝึกทักษะ, ทักษะการคิด.