Abstract:
บทคัดย่อ
การพัฒนาการประกอบอาชีพการเลี้ยงโคเนื้อของเกษตรกรโดยวิธีการจัดการความรู้
กรณีศึกษา กลุ่มผู้เลี้ยงโคเนื้อ ในเขตอำเภอคูเมือง และอำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ เป็น
การศึกษาเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ ตลอดทั้งเป็นการสนับสนุนการเรียนการสอนเชิงวิจัยสำหรับ
นักศึกษาสาขาวิชาสัตวศาสตร์ คณะเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ มี
วัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพการเลี้ยงโคเนื้อของกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อในจังหวัดบุรีรัมย์
2) ศึกษาการพัฒนาของการประกอบอาชีพเลี้ยงโคเนื้อโดยวิธีการจัดการความรู้ 3) ศึกษาความพึง
พอใจของเกษตรกรในการใช้วิธีการจัดการความรู้มาใช้ในการพัฒนาการประกอบอาชีพการเลี้ยง
โคเนื้อ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ เกษตรกรกลุ่มผู้เลี้ยงโคเนื้อบ้านโคกกลาง หมู่ที่ 9 ตำบลคูเมือง อำเภอ
คูเมือง จำนวน 20 คน และเกษตรกรกลุ่มผู้เลี้ยงโคเนื้อบ้านหนองตะเคียน หมู่ที่ 12 ตำบลบ้าน
กรวด อำเภอบ้านกรวด จำนวน 39 คน เลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง เครื่องมือวิจัยที่ใช้ คือ
แบบสอบถาม และการจัดเวที วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณด้วยสถิติเชิงพรรณนา และข้อมูลเชิง
คุณภาพด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการศึกษา พบว่า เกษตรกรกลุ่มผู้เลี้ยงโคเนื้อบ้านโคกกลาง
และบ้านหนองตะเคียน มีสภาพการเลี้ยงโคเนื้อที่มีการพัฒนาจากการเลี้ยงโคเนื้อในอดีต เกษตรกร
มีอาชีพทำไร่ทำนาเป็นอาชีพหลัก เลี้ยงโคเนื้อเป็นอาชีพรอง มีรายได้จากการเลี้ยงโคเนื้อเฉลี่ยต่อ
ครอบครัวจากทั้ง 2 หมู่บ้าน 7,942 บาท มีพื้นที่ประกอบการเกษตรเฉลี่ยต่อครอบครัว 22 ไร่ เลี้ยง
โคเนื้อเฉลี่ยต่อครอบครัว 6 ตัว ประกอบด้วยโคพื้นเมืองเฉลี่ย 4 ตัว โคลูกผสมบราห์มัน-พื้นเมือง
เฉลี่ย 2 ตัว กลุ่มผู้เลี้ยงโคเนื้อบ้านโคกกลางมีโคลูกผสมชาโรเลส์ เฉลี่ย 1 ตัว แต่กลุ่มผู้เลี้ยงโคเนื้อบ้านหนองตะเคียนไม่มี เกษตรกรมีประสบการณ์เลี้ยงโคเนื้อเฉลี่ย 8 ปี สภาพการเลี้ยงโคเนื้อของ
เกษตรกร จะปล่อยโคแทะเล็มหญ้าธรรมชาติตามหัวไร่ปลายนา เสริมด้วยฟางข้าวและหญ้าสด
แหล่งฟางข้าวได้จากการเก็บไว้หลังเก็บเกี่ยว แหล่งหญ้าสดได้จากปลูกเอง มีการให้อาหารข้นน้อย
รายและนานๆ ครั้ง แหล่งอาหารข้นได้จากการซื้ออาหารข้นสำเร็จรูปมาให้โคกิน มีการให้อาหาร
แร่ธาตุก้อน ส่วนแหล่งน้ำได้จากแหล่งน้ำธรรมชาติ
การให้อาหารของเกษตรกรให้ฟางข้าวและหญ้าสดร่วมกัน และให้อาหารข้นและ
อาหารแร่ธาตุร่วมกัน โดยให้หญ้าสดแก่โคต่อวันคิดเป็นร้อยละ 10 ของน้ำหนักตัว ฟางข้าวร้อยละ
3 ของน้ำหนักตัว และอาหารข้นร้อยละ 1 ของน้ำหนักตัว ให้อาหารเช้าเวลา 07.00 น. อาหารบ่าย
เวลา 13.00 น. และอาหารเย็นเวลา 18.00 น. การป้องกันโรคเกษตรกรให้วัคซีนแก่โคประจำทุกปี
โรคที่เกษตรกรพบบ่อยๆ คือ โรคปากและเท้าเปื่อย เกษตรกรถ่ายพยาธิภายในประจำทุกปี ยาถ่าย
พยาธิที่ใช้ คือ ไอโวเมก และปิเปอราซีน นอกจากนี้เกษตรกรยังมีการนำสมุนไพรมาใช้ป้องกัน
รักษาโรคโคอีกด้วย ส่วนช่องทางตลาดสำหรับเกษตรกรกลุ่มผู้เลี้ยงโคเนื้อบ้านหนองตะเคียนอยู่
ในสภาพง่าย เกษตรกรกลุ่มผู้เลี้ยงโคเนื้อบ้านโคกกลาง อยู่ในสภาพค่อนข้างยาก การจำหน่ายโค
เนื้อผ่านพ่อค้าคนกลางรวบรวมโคที่เข้ามาติดต่อในหมู่บ้าน การประเมินราคาใช้การประเมินด้วย
สายตา โดยการประเมินน้ำหนักตัวและราคาแล้วสรุปเป็นราคาต่อกิโลกรัม ราคาโคเนื้อเพศผู้สูง
กว่าเพศเมีย ราคาโคพื้นเมืองเฉลี่ยกิโลกรัมละ 33 บาท ราคาโคลูกผสมบราห์มัน-พื้นเมืองเฉลี่ย
กิโลกรัมละ 40 บาท และราคาโคลูกผสมชาโรเลส์เฉลี่ยกิโลกรัมละ 45 บาท
ปัญหาและอุปสรรคของเกษตรกรในการเลี้ยงโคเนื้อ ได้แก่ ไม่รู้เรื่องพันธุ์โค ขาดหญ้า
อาหารสัตว์ ไม่มีความรู้ทางวิชาการในการจัดการ ขาดความรู้ในการป้องกันรักษาโรค ราคาโคต่ำ
การพัฒนาการประกอบอาชีพเลี้ยงโคเนื้อโดยใช้วิธีการจัดการความรู้จากแก่นความรู้
ในด้าน พันธุ์โค ด้านการปรับปรุงพันธุ์ ด้านอาหาร ด้านการเลี้ยงดู ด้านการป้องกันรักษาโรค
และด้านการตลาด โดยการจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ กำหนดขุมความรู้เป็นขั้นบันได 5 ขั้น และ
ยืนยันสภาพขั้นบันไดปัจจุบันของกลุ่มผู้เลี้ยงโคเนื้อทั้งสองกลุ่ม พบว่า กลุ่มผู้เลี้ยงโคเนื้อบ้าน
หนองตะเคียนมีสภาพการเลี้ยงโคอยู่ในระดับขั้นบันไดที่ต่ำกว่ากลุ่มผู้เลี้ยงโคเนื้อบ้านโคกกลาง
ทำให้กลุ่มผู้เลี้ยงโคเนื้อบ้านหนองตะเคียนได้รับองค์ความรู้ในการยกระดับขั้นบันไดเพื่อ
พัฒนาการเลี้ยงโคเนื้อจากกลุ่มผู้เลี้ยงโคเนื้อบ้านโคกกลาง
ความพึงพอใจของเกษตรกรในการพัฒนาการประกอบอาชีพเลี้ยงโคเนื้อในด้านการ
จัดการความรู้ และด้านองค์ความรู้ที่ได้รับ อยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อทั้ง 2 ด้าน
พบว่า มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากทุกรายข้อ
ข้อแนะนำในการศึกษาวิจัยในครั้งนี้ ได้แก่ การจัดตั้งกลุ่มจะต้องมาจากความต้องการ
ของเกษตรกร ภาครัฐต้องให้การสนับสนุน-แนะนำเกษตรกรในด้านวิชาการ ระบบการจัดการ
ชักชวนเกษตรกรประกอบอาชีพและส่งเสริมการสร้างเครือข่ายกลุ่มผู้เลี้ยงโค