Abstract:
การวิจัย เรื่อง ภาวการณ์มีงานทำของบัณฑิต คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรมมหาวิทยาลัย
ราชภัฏบุรีรัมย์ ปีการศึกษา 2553-2554 มีวัตถุประสงค์ติดตามผลการมีงานทำของบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจาก คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ปีการศึกษา 2553 -2554 จากการศึกษาพบว่า บัณฑิตคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย โดย ส่วนใหญ่ที่สำเร็จการศึกษามีภาคเรียนอยู่ในภาคปกติ รองลงมาได้แก่ ภาค กศ.บป.และบัณฑิตคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม ส่วนมากจะสำเร็จการศึกษาหลักสูตร 4 ปี รองลงมาได้แก่หลักสูตรปริญญาตรี 2 ปี โดยสามารถจำแนกตามสาขาวิชาได้ ดังนี้ บัณฑิตส่วนใหญ่สำเร็จการศึกษาสาขาวิชาเทคโนโลยีการจัดการอุตสาหกรรม รองลงมา ได้แก่ สาขาวิชาเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ โดยสาขาวิชาที่บัณฑิตสำเร็จการศึกษาเป็นจำนวนน้อยที่สุด ได้แก่ สาขาวิชาเทคโนโลยีสถาปัตยกรรม ซึ่งการติดตามข้อมูลข่าวสารของมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์จากสื่อผ่านทางเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ มีจำนวนมากที่สุดและบัณฑิตคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม ส่วนใหญ่ ทำงานแล้ว รองลงมา คือ ทำงานแล้วและกำลังศึกษาต่อ ยังไม่ได้ทำงานและไม่ได้ศึกษาต่อ เมื่อพิจารณาเป็นรายสาขาวิชา สาขาวิชาที่มีสถานภาพการทำงานแล้วโดยเรียงจากมากไปน้อย คือ สาขาวิชาเทคโนโลยีสถาปัตยกรรม สาขาวิชาอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ โดยสาขาวิชาที่มีบัณฑิตทำงานน้อยที่สุด คือ สาขาวิชาเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนสาขาวิชาในคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม ที่มีบัณฑิตกำลังศึกษาต่อมากที่สุดคือ สาขาวิชาออกแบบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม รองลงมา คือ สาขาวิชาเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ และสาขาวิชาเทคโนโลยีการจัดการอุตสาหกรรม
คุณลักษณะของบัณฑิตคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรมที่พึงประสงค์ต่อการมีงานทำโดยรวมบัณฑิตคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรมมีความคิดเห็นระดับมากที่สุด โดยจำแนกคุณลักษณะที่บัณฑิตคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรมที่มีความคิดเห็นว่าจะสามารถทำให้มีงานทำเป็นอันดับแรกคือ คือ มีทักษะความเข้าใจบุคคลอื่น มีมนุษยสัมพันธ์ มีทักษะการสื่อสารที่ดี สามารถปรับตัวเข้ากับลูกน้อง เพื่อนร่วมงาน และหัวหน้างาน รวมทั้งสามารถปรับตัวให้เข้ากับสังคมต่าง ๆ ที่มีความแตกต่างกันได้อย่างกลมกลืน มีทัศนคติเชิงบวกกับชีวิต การทำงาน ผู้ร่วมงานและวัฒนธรรมองค์การ อันดับที่สอง คือ มีทักษะและบุคลิกภาพส่วนบุคคล ทั้งทางด้านการมีวินัยในตนเอง ตรงต่อเวลาและมีความรับผิดชอบ มีจิตใจที่เข้มแข็ง หนักแน่น มั่นใจ แน่วแน่และมีสมาธิในการทำงาน อันดับที่สาม คือ ผ่านการปฏิบัติงานจริงและสามารถประยุกต์ความรู้ที่มีไปใช้งานได้จริงและอันดับสุดท้าย ได้แก่
มีความสามารถสร้างสรรค์ผลงานในวิชาชีพของตน