รายงานการวิจัย (Research reports)
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/436
2024-03-28T18:37:50Z
-
โครงการพัฒนาระบบบริหารจัดการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ โดยอาศัยเทคโนโลยีสารสนเทศ คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/4432
โครงการพัฒนาระบบบริหารจัดการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ โดยอาศัยเทคโนโลยีสารสนเทศ คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม
สมยินดี, นางสาวขวัญ; ทะยานรัมย์, นางสาวพิมพ์ณัฐธยา; สมยินดี, นางสาวขวัญ
งานวิจัยการพัฒนาระบบบริหารจัดการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ โดยอาศัยเทคโนโลยีสารสนเทศ จัดทำขึ้นเพื่อสร้างระบบให้การบริหารจัดการฝึกประสบการณ์วิชาชีพของคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ช่วยอำนวยความสะดวก ลดขั้นตอนในการปฏิบัติงาน ความยุ่งยาก ความซ้ำซ้อนของข้อมูล สืบค้นง่าย และลดความผิดพลาดในการจัดการเอกสาร ซึ่งส่งผลให้การดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ผลการดำเนินงานด้านการบริการงานด้านการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ ของคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรมดีขึ้น ซึ่งได้ทำการศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา พ.ศ. 2561 โดยใช้แบบสอบถามความคิดเห็นปรากฏว่า ระดับความคิดเห็นอยู่ในระดับดีมาก โดยมีค่าเฉลี่ย 4.81 ปัจจัยที่ส่งผลให้ระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับประสิทธิภาพของระบบอยู่ในระดับดีมาก สำหรับงานวิจัยเรื่อง การพัฒนาระบบการบริหารจัดการฝึกประสบการณ์วิชาชีพนักศึกษา โดยอาศัยเทคโนโลยีสารสนเทศ คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรมนั้น ยังเป็นเพียงระบบต้นแบบในการให้บริการ ซึ่งจะต้องสำรวจความต้องการรูปแบบใหม่ๆ เพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาระบบให้สามารถรองรับความต้องการของผู้ใช้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นต่อไป
2018-01-05T00:00:00Z
-
ภาวการณ์มีงานทำของบัณฑิต คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรมมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ปีการศึกษา 2553-2554
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/2130
ภาวการณ์มีงานทำของบัณฑิต คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรมมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ปีการศึกษา 2553-2554
ประสีระเตสัง, ณัฐ
การวิจัย เรื่อง ภาวการณ์มีงานทำของบัณฑิต คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรมมหาวิทยาลัย
ราชภัฏบุรีรัมย์ ปีการศึกษา 2553-2554 มีวัตถุประสงค์ติดตามผลการมีงานทำของบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจาก คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ปีการศึกษา 2553 -2554 จากการศึกษาพบว่า บัณฑิตคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย โดย ส่วนใหญ่ที่สำเร็จการศึกษามีภาคเรียนอยู่ในภาคปกติ รองลงมาได้แก่ ภาค กศ.บป.และบัณฑิตคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม ส่วนมากจะสำเร็จการศึกษาหลักสูตร 4 ปี รองลงมาได้แก่หลักสูตรปริญญาตรี 2 ปี โดยสามารถจำแนกตามสาขาวิชาได้ ดังนี้ บัณฑิตส่วนใหญ่สำเร็จการศึกษาสาขาวิชาเทคโนโลยีการจัดการอุตสาหกรรม รองลงมา ได้แก่ สาขาวิชาเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ โดยสาขาวิชาที่บัณฑิตสำเร็จการศึกษาเป็นจำนวนน้อยที่สุด ได้แก่ สาขาวิชาเทคโนโลยีสถาปัตยกรรม ซึ่งการติดตามข้อมูลข่าวสารของมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์จากสื่อผ่านทางเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ มีจำนวนมากที่สุดและบัณฑิตคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม ส่วนใหญ่ ทำงานแล้ว รองลงมา คือ ทำงานแล้วและกำลังศึกษาต่อ ยังไม่ได้ทำงานและไม่ได้ศึกษาต่อ เมื่อพิจารณาเป็นรายสาขาวิชา สาขาวิชาที่มีสถานภาพการทำงานแล้วโดยเรียงจากมากไปน้อย คือ สาขาวิชาเทคโนโลยีสถาปัตยกรรม สาขาวิชาอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ โดยสาขาวิชาที่มีบัณฑิตทำงานน้อยที่สุด คือ สาขาวิชาเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนสาขาวิชาในคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม ที่มีบัณฑิตกำลังศึกษาต่อมากที่สุดคือ สาขาวิชาออกแบบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม รองลงมา คือ สาขาวิชาเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ และสาขาวิชาเทคโนโลยีการจัดการอุตสาหกรรม
คุณลักษณะของบัณฑิตคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรมที่พึงประสงค์ต่อการมีงานทำโดยรวมบัณฑิตคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรมมีความคิดเห็นระดับมากที่สุด โดยจำแนกคุณลักษณะที่บัณฑิตคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรมที่มีความคิดเห็นว่าจะสามารถทำให้มีงานทำเป็นอันดับแรกคือ คือ มีทักษะความเข้าใจบุคคลอื่น มีมนุษยสัมพันธ์ มีทักษะการสื่อสารที่ดี สามารถปรับตัวเข้ากับลูกน้อง เพื่อนร่วมงาน และหัวหน้างาน รวมทั้งสามารถปรับตัวให้เข้ากับสังคมต่าง ๆ ที่มีความแตกต่างกันได้อย่างกลมกลืน มีทัศนคติเชิงบวกกับชีวิต การทำงาน ผู้ร่วมงานและวัฒนธรรมองค์การ อันดับที่สอง คือ มีทักษะและบุคลิกภาพส่วนบุคคล ทั้งทางด้านการมีวินัยในตนเอง ตรงต่อเวลาและมีความรับผิดชอบ มีจิตใจที่เข้มแข็ง หนักแน่น มั่นใจ แน่วแน่และมีสมาธิในการทำงาน อันดับที่สาม คือ ผ่านการปฏิบัติงานจริงและสามารถประยุกต์ความรู้ที่มีไปใช้งานได้จริงและอันดับสุดท้าย ได้แก่
มีความสามารถสร้างสรรค์ผลงานในวิชาชีพของตน
2013-05-01T00:00:00Z
-
ความพึงพอใจด้านการบริการจัดการเรียนการสอนและสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ ของคณาจารย์และนักศึกษา คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรมมหา วิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ปีการศึกษา 2559
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/1157
ความพึงพอใจด้านการบริการจัดการเรียนการสอนและสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ ของคณาจารย์และนักศึกษา คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรมมหา วิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ปีการศึกษา 2559
รอไธสง, อัษฏางค์
การวิจัย เรื่อง ความพึงพอใจด้านการบริการจัดการเรียนการสอนและสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้
ของคณาจารย์และนักศึกษา คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ปีการศึกษา
2559 มีวัตถุประสงค์ 1.เพื่อการศึกษาข้อมูลสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ ของอาจารย์และนักศึกษา คณะ
เทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ 2. เพื่อประเมินความพึงพอใจด้านสิ่งสนับสนุน
การเรียนรู้ ของอาจารย์และนักศึกษา คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์
3. เพื่อนำผลการศึกษาความพึงพอใจของอาจารย์และนักศึกษา ไปปรังปรุงพัฒนาหลักสูตรการสอน
การบริการจัดการเรียนการสอน และสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ ให้มีประสิทธิภาพ จากการศึกษาพบว่า
นักศึกษาที่ตอบแบบสอบถามวิจัย จำนวน 300 คน ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย อยู่ในระดับชั้นปีที่ 3 สาขา
วิชาเทคโนโลยีการจัดการอุตสาหกรรม ผลการวิเคราะห์ภาพรวมของนักศึกษามีความพึงพอใจด้าน
การบริการจัดการเรียนการสอนและสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ ค่าเฉลี่ยรวมที่ ( xˉ = 3.92, S.D.= 0.62)
อันดับที่ 1 คือ การบูรณาการงานวิจัยสู่การเรียนการสอนและการบริการวิชาการ ค่าเฉลี่ย (xˉ = 4.04,
S.D.= 0.62) อันดับที่ 2 การนิเทศการออกฝึกประสบการณ์วิชาชีพ ค่าเฉลี่ย (xˉ=4.02, S.D.=0.64 )
และอันดับที่ 3 สถานที่จัดการเรียน ห้องเรียน ห้องบรรยายห้องประชุม ค่าเฉลี่ย ( xˉ = 3.97, S.D.=
0.60) ยู่ในระดับพึงพอใจมากเท่ากันตามลำดับ ส่วนของคณาจารย์ที่ตอบแบบสอบถามวิจัยจำนวน
40 คน ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย สาขาวิชาเทคโนโลยีก่อสร้าง ระยะเวลาในการปฏิบัติงานมากว่า 16
ปี คุณวุฒิการศึกษาปริญญาโท ความพึงพอใจด้านการบริการจัดการเรียนการสอนและสิ่งสนับสนุน
การเรียนรู้ สำหรับอาจารย์ โดยภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย (xˉ = 3.78 , S.D.
= 0.54) อันดับที่ 1 ด้านศักยภาพอาจารย์ประจำหลักสูตร ค่าเฉลี่ย ( xˉ = 3.87,S.D.= 0.60) อันดับ
ที่ 2 ด้านศักยภาพอาจารย์ประจำหลักสูตร ได้ค่าเฉลี่ย ( xˉ = 3.85 , S.D.= 0.48 ) และอันดับที่ 3
ด้านการจัดการเรียนการสอน ตามมาตรฐานหลักสูตรได้ค่าเฉลี่ย ( xˉ = 3.83 , S.D.= 0.46) อยู่ใน
ระดับพึงพอใจ มากเท่ากัน ตามลำดับ
2559-01-01T00:00:00Z
-
โครงการจัดทำคู่มือการใช้อุปกรณ์โสตทัศนูปกรณ์สำหรับคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/1150
โครงการจัดทำคู่มือการใช้อุปกรณ์โสตทัศนูปกรณ์สำหรับคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์
เพ็งกรูด, ชัยวัฒน์
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาปัญหาการใช้เครื่องโสตทัศนูปกรณ์ในคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม จากการสำรวจสาเหตุของปัญหา โดยส่วนใหญ่พบว่าผู้ใช้ส่วนใหญ่มีปัญหาด้านการติดตั้ง การใช้งานอุปกรณ์ไม่สามารถใช้งานได้ทันเวลา ทำให้มีผลกระทบต่อเวลาการเรียนและการสอน เกิดความล่าช้า ผู้วิจัยจึงค้นคว้าหาแนวทางแก้ไขปัญหานี้ ให้สามารถใช้งานอุปกรณ์โสตทัศนูปกรณ์ได้อย่างรวดเร็วจึงสร้างคู่มือการใช้งานอุปกรณ์โสตทัศนูปกรณ์ขึ้น โดยวิธีรวบรวมข้อมูลปัญหาการใช้งานในแต่ละอุปกรณ์ จัดเก็บสถิติการการร้องขอใช้บริการ ให้ผู้ใช้บริการห้องมีความรู้ความเข้าใจในการแก้ปัญหาในการใช้งานของแต่ละอุปกรณ์ โดยจัดเก็บสถิติการร้องขอการใช้บริการเจ้าหน้าที่โสตทัศนูปกรณ์ คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม ให้ทราบถึงปัญหา แล้วกลับมาทำการวิเคราะห์ปัญหาและสร้างกระบวนการจัดทำคู่มือการใช้งานอุปกรณ์โสตทัศนูปกรณ์ โดยผลการวิเคราะห์จากการรวบรวมข้อมูลปัญหาเกี่ยวกับความรู้ความเข้าใจของผู้ใช้บริการเกี่ยวกับการใช้งาน ทำให้ทราบว่า เดิมทีผู้ใช้บริการไม่มีความเข้าใจในการตั้งค่าอุปกรณ์นั้นๆ ทำให้ไม่สามารถเชื่อมต่อสัญญาณเสียง หรือสัญญาณภาพได้ จึงได้สร้างคู่มือการใช้งานอุปกรณ์โสตทัศนูปกรณ์ ขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกแก่บุคลากรในคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม
2558-02-01T00:00:00Z
-
การพัฒนาฐานข้อมูลสารสนเทศงานบริการยืม-คืน วัสดุครุภัณฑ์ ของคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/1149
การพัฒนาฐานข้อมูลสารสนเทศงานบริการยืม-คืน วัสดุครุภัณฑ์ ของคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม
เพ็งกรูด, ชัยวัฒน์; สมยินดี, ขวัญ
2559-03-01T00:00:00Z
-
การสร้างระบบการจัดการหน่วยบริหารงานข้อสอบเพื่อสร้างมาตรฐานข้อสอบของคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/1148
การสร้างระบบการจัดการหน่วยบริหารงานข้อสอบเพื่อสร้างมาตรฐานข้อสอบของคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์
เพ็งกรูด, ชัยวัฒน์
งานวิจัยการสร้างระบบการจัดการหน่วยบริหารงานข้อสอบเพื่อสร้างมาตรฐานข้อสอบของคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์นี้ได้ถูกจัดทำเพื่อสร้างระบบให้กับงานบริหารข้อสอบของคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม ซึ่งส่งผลต่อการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพทำให้ผลการดำเนินงานด้านการบริการงานด้านการผลิตข้อสอบของคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรมดีขึ้น ได้ทำการศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา พ.ศ. 2559 โดยใช้แบบสอบถามซึ่งมีระบบบริหารงานข้อสอบและความพึงพอใจในบริการ ได้การวิเคราะห์โดยรวมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.42 ซึ่งมีความพึงพอใจในสามอันดับอันดับที่1.การส่งต้นฉบับมีการเซ็นรับส่งต้นฉบับ และเก็บรักษาต้นฉบับไว้เป็นอย่างดี (ค่าเฉลี่ย 4.40) อันดับที่2. ระบบขั้นตอนการบริหารงานข้อสอบมีความซับซ้อนเกินไป (ค่าเฉลี่ย 4.33) อันดับที่ 3.จัดทำสำเนาข้อสอโดยเจ้าหน้าที่ทำข้อสอบตรวจสอบความถูกต้องของข้อสอบที่สำเนา ซึ่งจะมีการ Test ก่อนสำเนาทั้งหมด และการรับคืนข้อสอบ มีการตรวจนับจำนวนข้อสอบที่รับคืน และมีการลงลายมือชื่อ (ค่าเฉลี่ย 4.30) ซึ่งสรุปได้ว่าการสร้างระบบการจัดการหน่วยบริหารงานข้อสอบของคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม ทำให้การบริการของคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรมดีขึ้น
2560-02-01T00:00:00Z
-
โครงการการพัฒนากระบวนการบริหารจัดการห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/1145
โครงการการพัฒนากระบวนการบริหารจัดการห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม
Somyindee, Kwan
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมการใช้งานห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ของนักศึกษา และนำมาพัฒนากระบวนการบริหารจัดการห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรมให้มีประสิทธิภาพ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้มีนักศึกษาจำนวน 196 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสอบถามเรื่อง การพัฒนากระบวนการบริหารจัดการห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม โดยนำมาจัดอันดับ หาค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สามารถสรุปผลได้ดังนี้ ด้านความต้องการใช้ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ อยู่ในระดับ 4.92 ด้านปัญหาและอุปสรรคเกี่ยวกับการใช้ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ อยู่ในระดับ 4.87 ด้านคุณภาพเครื่องมือ อุปกรณ์ อยู่ในระดับ 4.23 ความพึงพอใจด้านการจัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพ อยู่ในระดับ 3.60 และพฤติกรรมหลังการใช้งานอยู่ในระดับ 3.03
แนวทางที่ควรดำเนินการในเรื่อง การพัฒนากระบวนการบริหารจัดการห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม โดยการตั้งข้อกำหนดกฎระเบียบการใช้ห้องให้ชัดเจนและชี้แจงให้ผู้ใช้บริการรับทราบ จัดอบรมให้ความรู้ ความเข้าใจในการใช้และดูแลคอมพิวเตอร์ จัดสรรงบประมาณด้านคอมพิวเตอร์ให้เพียงพอกับความต้องการในด้านการเรียนการสอน รวมถึงการพัฒนาด้านจิตใจ สร้างความตระหนักให้เกิดขึ้น เพื่อเป็นการบริหารจัดการห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
2560-03-01T00:00:00Z
-
โครงการการพัฒนารูปแบบการประชาสัมพันธ์ข่าวสารผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ สำหรับคณาจารย์ คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/1144
โครงการการพัฒนารูปแบบการประชาสัมพันธ์ข่าวสารผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ สำหรับคณาจารย์ คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม
Somyindee, Kwan
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนารูปแบบการประชาสัมพันธ์ข่าวสารสำหรับคณาจารย์ ให้ทันต่อสถานการณ์ปัจจุบัน (1) สร้างเครือข่ายสังคมออนไลน์ของคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม (2) ทดลองใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ของคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม (3) ศึกษาความพึงพอใจของคณาจารย์ที่ใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ของคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม จำนวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ เครือข่ายสังคมออนไลน์ www.facebook.com , Line , E-mail และแบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า 1. ผลการทดลองใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ Facebook, Line และ E-mail ส่วนใหญ่ผู้ใช้สะดวกให้แจ้งข่าวสารผ่านทาง Facebook มากที่สุด จำนวน 15 คน ร้อยละ 50 รองลงมา คือ Line จำนวน 10 คน ร้อยละ 33.3 และ E-mail จำนวน 5 คน ร้อยละ 16.7 เมื่อเปรียบเทียบตามสาขาวิชาที่สังกัด ผลปรากฏว่า สาขาวิชาที่สะดวกให้แจ้งข้อมูลข่าวสารทาง Facebook มากที่สุด เป็นสาขาวิชาเทคโนโลยีการจัดการอุตสาหกรรม จำนวน 4 คน ร้อยละ 26.7 สาขาวิชาที่สะดวกให้แจ้งข่าวสารทาง Line มากที่สุด เป็นสาขาวิชา อิเล็กทรอนิกส์สื่อสาร จำนวน 3 คน ร้อยละ 30.0 และ สาขาวิชาที่สะดวกให้แจ้งข่าวสารทาง E-mail มากที่สุด เป็นสาขาวิชา เทคโนโลยีเซรามิกส์ จำนวน 2 คน ร้อยละ 40 และ ผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจ การพัฒนารูปแบบการประชาสัมพันธ์ข่าวสารผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ สำหรับคณาจารย์คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม ผู้ใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์มีความพึงพอใจต่อรูปแบบการประชาพันธ์ข่าวสาร โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 4.53 Sมีการเรียงลำดับจากมากไปหาน้อยดังนี้ ข้อมูลข่าวสารมีประโยชน์และน่าสนใจ มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ ร้อยละ 4.93 โดยมีระดับความคิดเห็นอยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาได้แก่ ข้อมูลมีความเป็นปัจจุบัน สามารถนำไปปฏิบัติอย่างทันเวลา มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ ร้อยละ 4.87 โดยมีระดับความคิดเห็นอยู่ในระดับมากที่สุด และช่องทางการประชาสัมพันธ์มีความเหมาะสม มีระดับความคิดเห็นอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 4.80
2558-02-01T00:00:00Z