สาขาวิชาเคมี
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/159
2024-03-29T10:02:34Z
-
คำสั่งแนะแนว
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8785
คำสั่งแนะแนว
สาขาวิชาเคมี
-
โครงการทวนสอบ
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8784
โครงการทวนสอบ
สาขาวิขาเคมี
-
โครงการเตรียมพร้อมสาขาวิขาเคมี
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8783
โครงการเตรียมพร้อมสาขาวิขาเคมี
สาขาวิขาเคมี
-
คำสั่งสัมภาษณ์
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8782
คำสั่งสัมภาษณ์
สาขาวิชาเคมี
-
ตักบาตรประจำสัปดาห์
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8781
ตักบาตรประจำสัปดาห์
สาขาวิขาเคมี; สาขาวิขาเคมี
-
โครงการปีใหม่
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8779
โครงการปีใหม่
สาขาวิขาเคมี
-
วิทยากรละหานทราย
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8778
วิทยากรละหานทราย
สาขาวิขาเคมี
-
เอกสารการร่วมงาน BRICC
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8777
เอกสารการร่วมงาน BRICC
สาขาวิขาเคมี; สาขาวิขาเคมี
-
คำสั่งวันเด็ก
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8775
คำสั่งวันเด็ก
สาขาวิขาเคมี
-
งานกฐิน
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8774
งานกฐิน
งานกฐิน สาขาเคมี
-
Scopus and the Chemistry Connection
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8773
Scopus and the Chemistry Connection
สาขาวิขาเคมี
-
HCP Analysis in Biopharmaceuticals by Mass Spectrometry
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8772
HCP Analysis in Biopharmaceuticals by Mass Spectrometry
Sainate, Chuleekant
2024-02-01T00:00:00Z
-
Mechanistic Modelling in Early Stage Chromatography Process Development...
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8771
Mechanistic Modelling in Early Stage Chromatography Process Development...
Sainate, Chuleekant
2024-01-01T00:00:00Z
-
Best Practices of Downstream Protein Purification and Product Concentration
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8769
Best Practices of Downstream Protein Purification and Product Concentration
Sainate, Chuleekant
Best Practices of Downstream Protein Purification and Product
Concentration
2024-01-01T00:00:00Z
-
ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของสารสกัดจากรำข้าวพันธุ์ข้าวขาวดอกมะลิ 105 จังหวัดบุรีรัมย์
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8768
ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของสารสกัดจากรำข้าวพันธุ์ข้าวขาวดอกมะลิ 105 จังหวัดบุรีรัมย์
Sainate, Chuleekant
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของสารสกัดจากรำข้าวพันธุ์ข้าวขาวดอกมะลิ 105 ประชากร คือ รำข้าวพันธุ์ข้าวขาวดอกมะลิ 105 กลุ่มตัวอย่าง คือ รำข้าวจากบ้านสวายจีก บ้านสนวนนอก อำเภอเมือง และบ้านโคกเมือง อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ โดยทำการศึกษาตัวทำละลายที่เหมาะสมในการสกัด ปริมาณสารโปลีฟีนอลรวม ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ดีพีพีเอช (DPPH) และวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติด้วยโปรแกรมสำเร็จรูปทางคอมพิวเตอร์ (SPSS) พบว่าตัวทำละลายเมทานอลสามารถสกัดรำข้าวให้ระดับร้อยละผลผลิต (%yield) สูงที่สุดส่วนปริมาณสารโปลีฟีนอลรวมจะพบในสารสกัดรำข้าวจากบ้านสวายจีกมากที่สุด เท่ากับ 58.67 บ้านสนวนนอก เท่ากับ 39.70 และบ้านโคกเมือง เท่ากับ 32.70 mg GAE/g DW เมื่อศึกษาฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระดีพีพีเอช(DPPH) โดยคิดเป็นร้อยละการยับยั้งอนุมูลอิสระ (%Inhibition) พบว่าบ้านสนวนนอก เท่ากับ 95.17% บ้านสวายจีก เท่ากับ 85.96% และบ้านโคกเมือง เท่ากับ 50.98% ค่ากิจกรรมการออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ DPPH เทียบเท่าวิตามินซี (mg Vitamin C/g DW) พบว่าบ้านสนวนนอก เท่ากับ 61.91 บ้านสวายจีก เท่ากับ 57.35 และบ้านโคกเมือง เท่ากับ 34.65 mg Vitamin C/g DW และเมื่อวิเคราะห์ค่าทางสถิติ (One way analysis of variance : One way ANOVA) ของค่ากิจกรรมการออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ DPPH เทียบเท่าวิตามินซี (mg Vitamin C/g DW) พบว่าสารสกัดรำข้าวของ 3 ชุมชน มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
2023-07-01T00:00:00Z
-
ศึกษาเจตคติต่อการจัดการเรียนรู้แบบผู้เรียนมีส่วนร่วมจากผลประเมินในรายวิชา “วิทยาศาสตร์เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต”
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8756
ศึกษาเจตคติต่อการจัดการเรียนรู้แบบผู้เรียนมีส่วนร่วมจากผลประเมินในรายวิชา “วิทยาศาสตร์เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต”
จันผกา, บัวลอย; จันทร์นวล, ปฏิมา; ทัพสุริย์, สุภาวรัตน์; จันทร์นวล, เก่ง
วัตถุประสงค์ของการวิจัยนี้ คือ ศึกษาเจตคติต่อการจัดการเรียนรู้แบบผู้เรียนมีส่วนร่วมจากผลประเมินในรายวิชา “วิทยาศาสตร์เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต” ของนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ในสาขาวิชาเทคโนโลยีวิศวกรรมไฟฟ้า คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม และสาขาวิชาสื่อสารมวลชน คณะวิทยาการจัดการ ระดับปริญญาตรี ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ โดยการประเมินความพึงพอใจในการเรียนการสอน ในภาคการศึกษาที่ 2 ปีการศึกษา 2566 ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลการประเมินเจตคติต่อบทเรียนจาก 15 คำถาม และการประเมินการจัดการสอนแบบให้ผู้เรียนมีส่วนร่วม 25 คำถาม ผลการประเมิน พบว่า หัวข้อที่นักศึกษาสาขาวิชาเทคโนโลยีวิศวกรรมไฟฟ้าร้อยละ 52.9 ประเมินว่าสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ คือ ‘พลังงาน’ ในขณะที่นักศึกษาในสาขาวิชาสื่อสารมวลชนร้อยละ 85.7 ประเมินให้หัวข้อ ‘สารเคมีในเครื่องสำอาง’ หัวข้อที่กิจกรรมมีความสนุกสำหรับนักศึกษาสาขาวิชาเทคโนโลยีวิศวกรรมไฟฟ้าร้อยละ 52.9 คือ ‘คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า’ และ ‘สารอาหาร สลากอาหาร และยา’ แตกต่างจากนักศึกษาในสาขาวิชาสื่อสารมวลชนที่ประเมินว่าหัวข้อ ‘สารเคมีในเครื่องสำอาง’ มีความสนุกในการทำกิจกรรม คิดเป็นร้อยละ 71.4 โดยนักศึกษาทั้งสองสาขาประเมินว่าสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันน้อย คือ ‘อัตราส่วน ร้อยละ’ คิดเป็นร้อยละ 41.2 และ 64.3 ตามลำดับ; The aim of this research is to investigate the attitudes in active-learning provided on "Science for Quality of Life" course. The first-year students of Electrical Engineering Technology program in Faculty of Industrial Technology, and Mass Communication program in Faculty of Management Science at Buriram Rajabhat University, registered in second semester, answered a questionnaire. Data was collected from 15 questions for assessed the attitude on each chapter and 25 questions for assessed the active-based learning in this course. The results show that active-based learning impacted on students’ attitude. ‘energy’ is the chapter can used in everyday life, from assessed of 52.9 % students of Electrical Engineering Technology program. In the other hand, 85.7% students of Mass Communication represented in ‘cosmetics chemistry’. In terms of enjoyable activities, 52.9 % students of Electrical Engineering Technology interested in ‘electromagnetic waves’ and ‘nutrition, food label and medicine’ but 71.4 % students of Mass Communication interested in ‘cosmetics chemistry’. However, the lowest interested chapter for both group’ students was ‘ratios and percentages’ that was found at percentage of 41.2 and 64.3, respectively.
2567-03-03T00:00:00Z
-
การสกัด การทดสอบฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และการตรวจสอบกลุ่มสารพฤกษเคมีของ Limonia acidissima
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8733
การสกัด การทดสอบฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และการตรวจสอบกลุ่มสารพฤกษเคมีของ Limonia acidissima
สุวรรณา จันคนา
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทำการสกัด ทดสอบฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของสารสกัดจากใบมะขวิด พร้อมทั้งตรวจสอบกลุ่มสารทางพฤกษเคมี ได้แก่ คูมารินส์ อัลคาลอยด์ สเตอรอยด์ เทอร์ปีนอยด์ โดยทำการสกัดใบมะขวิดด้วยตัวทำละลายเมทานอล ได้สารสกัดหยาบเมทานอล (crude methanol extract) โดยมีเปอร์เซ็นต์ของสารสกัดหยาบต่อน้ำหนักพืชแห้งคือ 8.4536% นำสารสกัดไปทดสอบฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระด้วยวิธี DPPH assay พบว่าสารสกัดหยาบใบมะขวิดออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระโดยมีค่า IC50 เท่ากับ 1611.1436 mg/L ในขณะที่สารต้านอนุมูลอิสระมาตรฐานTrolox มีค่า IC50เท่ากับ 14.3561 mg/L การวิเคราะห์องค์ประกอบทางพฤกษเคมี ในสารสกัดใบมะขวิด โดยทำการวิเคราะห์กลุ่มสารคูมารินส์ กลุ่มสารอัลคาลอยด์ กลุ่มสารสเตอรอยด์-เทอร์ปีนอยด์ พบว่าในสารสกัดใบมะขวิดมีสารกลุ่มคูมารินส์กลุ่มอัลคาลอยด์ และกลุ่มสเตอรอยด์-เทอร์ปีนอยด์ เป็นองค์ประกอบ
2567-01-01T00:00:00Z
-
การศึกษาสภาวะที่เหมาะสมในการสกัดแอนโทไซยานิน ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และปริมาณฟีนอลิกทั้งหมด จากข้าวไรซ์เบอร์รี่ เพื่อแปรรูปเป็นผงแอนโทไซยานิน
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8732
การศึกษาสภาวะที่เหมาะสมในการสกัดแอนโทไซยานิน ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และปริมาณฟีนอลิกทั้งหมด จากข้าวไรซ์เบอร์รี่ เพื่อแปรรูปเป็นผงแอนโทไซยานิน
ศรัญญา มณีทอง; ธัญพรรณ ฮ่อบรรทัด
งานวิจัยนี้ได้ศึกษาสภาวะที่เหมาะสมในการสกัดแอนโทไซยานินจากข้าวไรซ์เบอร์รี่ให้ได้ปริมาณ
สารแอนโทไซยานิน และมีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระมากที่สุด เพื่อนำสารสกัดที่ได้ไปแปรรูปเป็น
ผลิตภัณฑ์ผงแอนโทไซยานิน จากผลการวิจัยพบว่า สภาวะที่เหมาะสมในการสกัดข้าว โดยใช้อัตราส่วน
ของข้าวไรซ์เบอร์รี่ต่อน้ำสะอาดเป็น 1:5 คือ การสกัดโดยวิธีให้ความร้อนที่อุณหภูมิ 90 องศาเซลเซียส
เป็นเวลา 15 นาที ได้ไซยานิดิน-3-กลูโคไซด์ และ เพลาร์โกนิดิน-3-กลูโคไซด์ เท่ากับ 37.950+4.809
และ 20.188+2.556 มิลลิกรัมต่อลิตร ตามลำดับ ซึ่งสอดคล้องกับผลการศึกษาฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ
ด้วยวิธี DPPH (IC50 97.87 มิลลิกรัมต่อลิตร) ABTS (2.58 มิลลิโมลาร์ Trolox/กรัม sample) และ
FRAP (74.70 มิลลิกรัมต่อลิตร Fe2+/กรัม sample) และมีปริมาณสารประกอบฟีนอลิกทั้งหมด
(264.74 มิลลิกรัมต่อลิตร) สูงที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับวิธีการสกัดแบบไม่ให้ความร้อน นอกจากนี้ยังได้
ศึกษาการทำให้เป็นผงด้วยกระบวนการอบแห้ง (Tray dry) และทำให้แห้งแบบแช่เยือกแข็ง (Freeze
dry) พบว่าผงแอนโทไซยานินที่ผ่านการทำให้แห้งแบบแช่เยือกแข็งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระที่ดีกว่า ดังนั้น
จากผลการวิจัยครั้งนี้ พบว่าสามารถนำสารสกัดแอนโทไซยานินจากข้าวไรซ์เบอร์รี่ไปแปรรูปเป็น
ผลิตภัณฑ์ผงแอนโทไซยานิน เพื่อพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารต่อไปได้
2023-12-08T00:00:00Z
-
การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความพึงพอใจ กรณีศึกษารายวิชาเคมี 2
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8731
การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความพึงพอใจ กรณีศึกษารายวิชาเคมี 2
ภัทรนันท์ ทวดอาจ; ศรัญญา มณีทอง; ธัญพรรณ ฮ่อบรรทัด
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความพึงพอใจของนักศึกษาที่เรียนเคมี 2 กลุ่มตัวอย่างได้จากการสุ่มแบบเจาะจง คือ นักศึกษาชั้นปีที่ 1 สาขาวิชาเคมี ภาคการศึกษาที่ 2 ปีการศึกษา 2566 จำนวน 4 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ แบบฝึกทักษะขั้นพื้นฐานการเคมี แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน คือแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน แบบอัตนัย และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักศึกษา ผลการศึกษาพบว่า 1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษาชั้นปีที่ 1 สาขาวิชาเคมี โดยใช้แบบฝึกทักษะขั้นพื้นฐานเคมี หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน 2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษาชั้นปีที่ 1 สาขาวิชาเคมี สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 60 และ 3) นักศึกษามีความพึงพอใจต่อการเรียนเคมี 2 โดยแบ่งเป็นด้านเนื้อหาและความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ คิดเป็นร้อยละ 88 ความพึงพอใจและความมั่นใจในการเรียนวิทยาศาสตร์ คิดเป็นร้อยละ 80 และเจตคติต่อการเรียนเคมี 2 คิดเป็นร้อยละ 80 อยู่ในระดับมาก
2024-03-04T00:00:00Z
-
เอกสารประกอบการสอนชีวเคมี2 (2566)
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8730
เอกสารประกอบการสอนชีวเคมี2 (2566)
สุวรรณา จันคนา
-
ทัศนคติและความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนการสอน วิชาชีวเคมี 2 กรณีศึกษา: นักศึกษาสาขาวิชาเคมี มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8729
ทัศนคติและความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนการสอน วิชาชีวเคมี 2 กรณีศึกษา: นักศึกษาสาขาวิชาเคมี มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์
สุวรรณา จันคนา; กริชเพชร นนทโคตร
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาทัศนคติและความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อการจัดการเรียนการสอน 2) เพื่อวิเคราะห์การเรียนการสอนที่เหมาะสมกับนักศึกษา กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยได้แก่ นักศึกษาสาขาวิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ แบบสอบถามทัศนคติและความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อการจัดการเรียนการสอนวิชาชีวเคมี 2 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า 1) นักศึกษามีความพึงพอใจต่อนโยบายการจัดการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ระดับมากที่สุด ร้อยละ 29.6 ระดับมาก ร้อยละ 40.7 นักศึกษามีความพึงพอใจต่อวิธีการจัดการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัย ระดับมากที่สุดร้อยละ 18.5 ระดับมากร้อยละ 44.4 2) ด้านอาจารย์ผู้สอน มีการใช้สื่อประกอบการสอนได้อย่างเหมาะสม พึงพอใจระดับมากที่สุดร้อยละ 33.3 พึงพอใจระดับมากร้อยละ 44.4 ให้ผู้เรียนซักถามและรับฟังความคิดเห็น พึงพอใจระดับมากที่สุดร้อยละ 40.7 พึงพอใจระดับมากร้อยละ 40.7 ความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ พึงพอใจระดับมากที่สุดร้อยละ 40.7 พึงพอใจระดับมากร้อยละ 40.7 3) ด้านวิธีการสอนและกิจกรรมการเรียนการสอน มีการจัดการเรียนการสอนที่ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนการสอน พึงพอใจระดับมากที่สุดร้อยละ 37.0 พึงพอใจระดับมากร้อยละ 37.0 วิธีการสอนมีความเหมาะสมกับเนื้อหาวิชา พึงพอใจระดับมากที่สุดร้อยละ 33.3 พึงพอใจระดับมากร้อยละ 48.1 มีการบูรณาการและการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน พึงพอใจระดับมากที่สุดร้อยละ 29.6 พึงพอใจระดับมากร้อยละ 44.4 4) ด้านการวัดผลและการประเมินผลการเรียน มีวิธีการวัดผลและประเมินผลที่หลากหลาย พึงพอใจระดับมากที่สุดร้อยละ 29.6 พึงพอใจระดับมากร้อยละ 37.0 มีการวัดผลและประเมินผลตรงตามจุดประสงค์การเรียน พึงพอใจระดับมากที่สุดร้อยละ 37.0 พึงพอใจระดับมากร้อยละ 29.6 มีการวัดผลและประเมินผลต่อเนื่องควบคู่ไปกับการเรียนการสอน พึงพอใจระดับมากที่สุดร้อยละ 29.6 พึงพอใจระดับมากร้อยละ 44.4
2567-01-01T00:00:00Z
-
กรรมการงานต่างๆ
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8693
กรรมการงานต่างๆ
สาขาวิขาเคมี
-
มคอ3เคมีอินทรีย์
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8692
มคอ3เคมีอินทรีย์
สาขาวิขาเคมี
-
แผนบริหารการสอนเคมี 1
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8690
แผนบริหารการสอนเคมี 1
สาขาวิขาเคมี
เคมี1
-
แผนบริหารการสอนเคมี 1
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8689
แผนบริหารการสอนเคมี 1
ชุลีกานต์ สายเนตร
-
สื่อประกอบการสอนวิชาน้ำหอมและสารหอม
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8675
สื่อประกอบการสอนวิชาน้ำหอมและสารหอม
ทัพสุริย์, สุภาวรัตน์
-
การประเมินเจตคติทางวิทยาศาสตร์ต่อการจัดการสอนแบบให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในรายวิชา “วิทยาศาสตร์เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต”
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8674
การประเมินเจตคติทางวิทยาศาสตร์ต่อการจัดการสอนแบบให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในรายวิชา “วิทยาศาสตร์เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต”
จันทร์นวล, ปฏิมา; จันผกา, บัวลอย; ทัพสุริย์, สุภาวรัตน์; จันทร์นวล, เก่ง
2566-09-01T00:00:00Z
-
เอกสารประกอบการสอนรายวิชา ปฏิบัติการเคมี 1 2566
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8673
เอกสารประกอบการสอนรายวิชา ปฏิบัติการเคมี 1 2566
ภัทรนันท์, ทวดอาจ
-
เอกสารประกอบการสอนรายวิชา ปฏิบัติการเคมี 1-2566
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8672
เอกสารประกอบการสอนรายวิชา ปฏิบัติการเคมี 1-2566
ทวดอาจ, ภัทรนันท์
-
เอกสารประกอบการสอนวิชาชีวเคมี1 (2566)
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8670
เอกสารประกอบการสอนวิชาชีวเคมี1 (2566)
สุวรรณา จันคนา
-
ทัศนคติและความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนการสอน วิชาชีวเคมี 1 กรณีศึกษา: นักศึกษาสาขาวิชาเคมีและสาขาวิชาชีววิทยา ชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8669
ทัศนคติและความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนการสอน วิชาชีวเคมี 1 กรณีศึกษา: นักศึกษาสาขาวิชาเคมีและสาขาวิชาชีววิทยา ชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์
สุวรรณา จันคนา; กริชเพชร นนทโคตร
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาทัศนคติและความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อการจัดการเรียนการสอน 2) เพื่อวิเคราะห์การเรียนการสอนที่เหมาะสมกับนักศึกษา กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยได้แก่ นักศึกษาสาขาวิชาเคมีและสาขาวิชาชีววิทยา ชั้นปีที่ 3 คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ที่ลงทะเบียนเรียนรายวิชาชีวเคมี 1 ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ แบบสอบถามทัศนคติและความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อการจัดการเรียนการสอนวิชาชีวเคมี 1 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า 1) นักศึกษามีความพึงพอใจต่อนโยบายการจัดการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัย ระดับมากที่สุด ร้อยละ 26.9 ระดับมาก ร้อยละ 42.3 นักศึกษามีความพึงพอใจต่อวิธีการจัดการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัย ระดับมากที่สุดร้อยละ 15.4 ระดับมากร้อยละ 46.2 2) ด้านอาจารย์ผู้สอน มีการใช้สื่อประกอบการสอนได้อย่างเหมาะสม พึงพอใจระดับมากที่สุดร้อยละ 30.8 พึงพอใจระดับมากร้อยละ 46.2 ให้ผู้เรียนซักถามและรับฟังความคิดเห็น พึงพอใจระดับมากที่สุดร้อยละ 38.5 พึงพอใจระดับมากร้อยละ 42.3 ความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ พึงพอใจระดับมากที่สุดร้อยละ 38.5 พึงพอใจระดับมากร้อยละ 42.3 3) ด้านวิธีการสอนและกิจกรรมการเรียนการสอน มีการจัดการเรียนการสอนที่ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนการสอน พึงพอใจระดับมากที่สุดร้อยละ 34.6 พึงพอใจระดับมากร้อยละ 38.5 วิธีการสอนมีความเหมาะสมกับเนื้อหาวิชา พึงพอใจระดับมากที่สุดร้อยละ 30.8 พึงพอใจระดับมากร้อยละ 50.0 มีการบูรณาการและการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน พึงพอใจระดับมากที่สุดร้อยละ 26.9 พึงพอใจระดับมากร้อยละ 46.2 4) ด้านการวัดผลและการประเมินผลการเรียน มีวิธีการวัดผลและประเมินผลที่หลากหลาย พึงพอใจระดับมากที่สุดร้อยละ 26.9 พึงพอใจระดับมากร้อยละ 38.5 มีการวัดผลและประเมินผลตรงตามจุดประสงค์การเรียน พึงพอใจระดับมากที่สุดร้อยละ 34.6 พึงพอใจระดับมากร้อยละ 30.8 มีการวัดผลและประเมินผลต่อเนื่องควบคู่ไปกับการเรียนการสอน พึงพอใจระดับมากที่สุดร้อยละ 26.9 พึงพอใจระดับมากร้อยละ 46.2 การวัดผลและประเมินผลมีความชัดเจนและเหมาะสม พึงพอใจระดับมากที่สุดร้อยละ 34.6 พึงพอใจระดับมากร้อยละ 34.6
2566-09-01T00:00:00Z
-
การศึกษาความพึงพอใจต่อรายวิชา การวิเคราะห์ทางเคมีด้วยเครื่องมือ นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาวิชาเคมี มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8657
การศึกษาความพึงพอใจต่อรายวิชา การวิเคราะห์ทางเคมีด้วยเครื่องมือ นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาวิชาเคมี มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์
ศรัญญา มณีทอง; ภัทรนันท์ ทวดอาจ; ธัญพรรณ ฮ่อบรรทัด
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักศึกษาที่เรียนรายวิชาการวิเคราะห์ทางเคมีด้วยเครื่องมือ นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาวิชาเคมี มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ กลุ่มตัวอย่างได้จากการสุ่มแบบเจาะจง คือ นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาวิชาเคมี ภาคการศึกษาที่ 1 ปีการศึกษา 2566 จำนวน 11 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ แบบสอบถามความพึงพอใจของนักศึกษา ผลการศึกษาพบว่า 1) เนื้อหาบทหลักการ ทฤษฎี สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 2) ผู้เรียนมีความเข้าใจเนื้อหาการเรียนวิชา การวิเคราะห์ทางเคมีด้วยเครื่องมือ 3) ผู้เรียนมีความเข้าใจและสามารถบอกชื่อเครื่องมือวิเคราะห์ได้ 4) ผู้เรียนมีความเข้าใจในหลักการวิเคราะห์ของเครื่องมือและการประยุกต์ใช้งาน และ 5) ผู้เรียนสามารถเลือกเครื่องมือวิเคราะห์ให้สอดคล้องกับตัวอย่างที่ต้องการวิเคราะห์ได้ โดยในแต่ละด้านมีค่าเฉลี่ยของความพึงพอใจดังนี้ 4.36 4.27 4.27 4.09 และ 4.18 ตามลำดับ และมีค่าเฉลี่ยรวมอยู่ที่ 4.23 จากคะแนนเต็ม 5 ซึ่งอยู่ในระดับพอใจมาก
2023-09-08T00:00:00Z
-
แผนบริหารการสอนปฏิบัติการเคมี 1
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8570
แผนบริหารการสอนปฏิบัติการเคมี 1
สาขาวิชาเคมี
-
Uncertainty of Measurement & Validation Method for ISO/IEC 17025:2017
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8568
Uncertainty of Measurement & Validation Method for ISO/IEC 17025:2017
คณะวิทยาศาสตร์
-
วิธีการใช้วัสดุอ้างอิง
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8566
วิธีการใช้วัสดุอ้างอิง
บริษัท AXXO Chemicals
พัฒนาตนเอง
-
การย้อมเส้นใยฝ้ายด้วยสีเคมี
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8533
การย้อมเส้นใยฝ้ายด้วยสีเคมี
ชุลีกานต์ สายเนตร
-
การย้อมสีเส้นใยฝ้ายด้วยสีเคมี
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8532
การย้อมสีเส้นใยฝ้ายด้วยสีเคมี
ชุลีกานต์ สายเนตร
-
การศึกษาแผ่นโบรอนไนไทรด์ที่โดปด้วยโลหะแทรนซิชันสำหรับดูดซับแก๊สไฮโดรเจนและฟอร์มาลดีไฮด์
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8530
การศึกษาแผ่นโบรอนไนไทรด์ที่โดปด้วยโลหะแทรนซิชันสำหรับดูดซับแก๊สไฮโดรเจนและฟอร์มาลดีไฮด์
ทัพสุริย์, สุภาวรัตน์
2563-06-21T00:00:00Z
-
สื่อประกอบการสอนรายวิชา เคมี 2
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8514
สื่อประกอบการสอนรายวิชา เคมี 2
ศรัญญา มณีทอง
-
เคมีวิเคราะห์ 2
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8513
เคมีวิเคราะห์ 2
ศรัญญา มณีทอง
-
การศึกษาผลของขนาดอนุภาคดินภูเขาไฟต่อการพัฒนาโคลนขัดผิวกาย
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8511
การศึกษาผลของขนาดอนุภาคดินภูเขาไฟต่อการพัฒนาโคลนขัดผิวกาย
ภัทรนันท์, ทวดอาจ
2023-03-14T00:00:00Z
-
สื่อประกอบการสอนเคมีทั่วไป 2565
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8510
สื่อประกอบการสอนเคมีทั่วไป 2565
ภัทรนันท์, ทวดอาจ
-
-
เอกสารประกอบการสอนรายวิชา เคมีอุตสาหกรรม 2565
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8509
เอกสารประกอบการสอนรายวิชา เคมีอุตสาหกรรม 2565
ภัทรนันท์, ทวดอาจ
-
-
เอกสารประกอบการสอนวิชาเคมีเชิงฟิสิกส์ 2
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8507
เอกสารประกอบการสอนวิชาเคมีเชิงฟิสิกส์ 2
สื่อออก, วิริญรัชญ์
-
สื่อประกอบการสอนเคมีเชิงฟิสิกส์ 2
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8506
สื่อประกอบการสอนเคมีเชิงฟิสิกส์ 2
สื่อออก, วิริญรัชญ์
-
การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความพึงพอใจปฏิบัติการเคมี 1 นักศึกษาชั้นปีที่ 1 สาขาวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8505
การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความพึงพอใจปฏิบัติการเคมี 1 นักศึกษาชั้นปีที่ 1 สาขาวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์
ภัทรนันท์ ทวดอาจ; ศรัญญา มณีทอง; ธัญพรรณ ฮ่อบรรทัด
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความพึงพอใจของนักศึกษาที่เรียน
ปฏิบัติการเคมี 1 กลุ่มตัวอย่างได้จากการสุ่มแบบเจาะจง คือ นักศึกษาชั้นปีที่ 1 สาขาวิชาวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม ภาคการศึกษาที่ 2 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 13 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ แบบ
ฝึกทักษะขั้นพื้นฐานการปฏิบัติการเคมี แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน คือแบบทดสอบก่อนเรียนและหลัง
เรียน แบบอัตนัย และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักศึกษา ผลการศึกษาพบว่า 1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
ของนักศึกษาชั้นปีที่ 1 สาขาวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม โดยใช้แบบฝึกทักษะขั้นพื้นฐานการ
ปฏิบัติการเคมี หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน 2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษาชั้นปีที่ 1 สาขาวิชาวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 60 และ 3) นักศึกษามีความพึงพอใจต่อการเรียนปฏิบัติการเคมี 1
โดยแบ่งเป็นด้านเนื้อหาและความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ คิดเป็นร้อยละ 88 ความพึงพอใจและความมั่นใจใน
การปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ คิดเป็นร้อยละ 80 และเจตคติต่อการเรียนปฏิบัติการเคมี 1 คิดเป็นร้อยละ 80 อยู่
ในระดับมาก
2022-03-13T00:00:00Z
-
สื่อประกอบการสอนเรื่อง การประยุกต์ใช้โปรแกรม Microsoft Excel ในทางเคมี
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8504
สื่อประกอบการสอนเรื่อง การประยุกต์ใช้โปรแกรม Microsoft Excel ในทางเคมี
ทัพสุริย์, สุภาวรัตน์
-
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับครีมกันแดด
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8501
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับครีมกันแดด
ทัพสุริย์, สุภาวรัตน์
2565-12-14T00:00:00Z
-
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการจัดการเรียนการสอน วิชาเคมี 1 กรณีศึกษา: นักศึกษาสาขาวิชาวิทยาศาสตร์การกีฬา ชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8492
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการจัดการเรียนการสอน วิชาเคมี 1 กรณีศึกษา: นักศึกษาสาขาวิชาวิทยาศาสตร์การกีฬา ชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์
สุวรรณา จันคนา; กริชเพชร นนทโคตร
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการจัดการเรียนการสอนของนักศึกษา 2) เพื่อวิเคราะห์และพัฒนาแนวทางในการจัดการเรียนการสอนของนักศึกษา กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยได้แก่ นักศึกษาสาขาวิชาวิทยาศาสตร์การกีฬา ชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ที่ลงทะเบียนเรียนรายวิชาเคมี 1 ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ แบบสอบถามปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการจัดการเรียนการสอนวิชาเคมี 1 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า 1) ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการเรียนการสอนของนักศึกษาในวิชาเคมี 1 ได้แก่ ปัจจัยด้านผู้เรียน ปัจจัยด้านผู้สอน ปัจจัยด้านสถานที่เรียน และปัจจัยด้านเทคโนโลยี 2) ปัจจัยด้านผู้เรียนประกอบด้วย รูปแบบการเรียนการสอนมีความพึงพอใจระดับมาก ร้อยละ54.1 ผู้เรียนสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นหรือถามตอบเกี่ยวกับเนื้อหาวิชาได้สะดวก มีความพึงพอใจระดับมาก ร้อยละ56.8 ผู้เรียนมีความเชื่อมั่นต่อการวัดผลประเมินผลการเรียนการสอน มีความพึงพอใจระดับมาก ร้อยละ62.2 ผู้เรียนมีการเตรียมความพร้อมก่อนการเรียนและขณะเรียนมีความตั้งใจเอาใจใส่ในการเรียน มีความพึงพอใจระดับมาก ร้อยละ59.5 3) ปัจจัยด้านผู้สอนประกอบด้วย มีการใช้สื่อประกอบการสอนได้อย่างเหมาะสม มีความพึงพอใจระดับมาก ร้อยละ43.2 มีการแจ้งรายละเอียดเนื้อหา วัตถุประสงค์ การประเมินผล อย่างชัดเจน มีความพึงพอใจระดับมาก ร้อยละ 43.2 มีการให้โอกาสผู้เรียนได้ซักถามและรับฟังความคิดเห็น มีความพึงพอใจระดับมาก ร้อยละ45.9 มีความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ ช่วยให้เกิดความรู้ความเข้าใจในเนื้อหา มีความพึงพอใจระดับมาก ร้อยละ48.6
2566-01-01T00:00:00Z
-
การสกัดและการทดสอบฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของเครือไทสง
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8491
การสกัดและการทดสอบฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของเครือไทสง
Jankana, Suwanna
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ในการสกัดและทดสอบฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของสารสกัดใบเครือไทสง นำใบเครือไทสงมาสกัดด้วยตัวทำละลายเอทานอล 2 วิธี ได้แก่ การสกัดแบบแช่หมัก (maceration) และการสกัดด้วยเครื่องสกัดซอกเลต (soxhlet extraction) ได้สารสกัดหยาบเอทานอล (crude ethanol extract) โดยมีร้อยละสารสกัดหยาบต่อน้ำหนักพืชแห้ง คือ 28.344 และ 68.896 ตามลำดับ นำสารสกัดมาทดสอบฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระเชิงปริมาณวิเคราะห์ ด้วยวิธี DPPH radical scavenging assay พบว่าสารสกัดเอทานอลจากการสกัดแบบแช่หมักออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระโดยมีค่า IC50 เท่ากับ 4.346 µg/ml ในขณะที่สารสกัดเอทานอลจากการสกัดแบบซอกเลตออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระโดยมีค่า IC50 เท่ากับ 6.125 µg/ml ผลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าสารสกัดจากใบเครือไทสงมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ โดยสารสกัดที่ได้จากการสกัดแบบแช่หมักออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระได้มากกว่าสารสกัดที่ได้จากการสกัดแบบซอกเลต
2566-01-01T00:00:00Z
-
ชีวเคมี2 (2565)
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8487
ชีวเคมี2 (2565)
Jankana, Suwanna
-
การพัฒนาเซรั่มนมขมิ้น
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8385
การพัฒนาเซรั่มนมขมิ้น
สาขาวิขาเคมี
-
การย้อมสีเส้นใยไหมด้วยสีธรรมชาติ
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8384
การย้อมสีเส้นใยไหมด้วยสีธรรมชาติ
สาขาวิขาเคมี
-
การย้อมสีเส้นใยฝ้ายด้วยสีธรรมชาติ ตำบลเสารเดียว อำเภอหนองหงส์
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8383
การย้อมสีเส้นใยฝ้ายด้วยสีธรรมชาติ ตำบลเสารเดียว อำเภอหนองหงส์
สาขาวิขาเคมี
-
การย้อมสีเส้นฝ้ายด้วยสีธรรมชาติ
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8382
การย้อมสีเส้นฝ้ายด้วยสีธรรมชาติ
สาขาวิขาเคมี
-
การย้อมสีเส้นใยฝ้ายด้วยสีธรรมชาติ ตำบลแสลงโทน อ ประโคนชัย
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8381
การย้อมสีเส้นใยฝ้ายด้วยสีธรรมชาติ ตำบลแสลงโทน อ ประโคนชัย
สาขาวิขาเคมี
-
การย้อมสีเส้นใยไหมด้วยสีธรรมชาติ ตำบลบ้านไทร อำเภอประโคนชัย
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8380
การย้อมสีเส้นใยไหมด้วยสีธรรมชาติ ตำบลบ้านไทร อำเภอประโคนชัย
สาขาวิขาเคมี
-
การย้อมสีเส้นใยฝ้ายด้วยสีธรรมชาติ ตำบลโคกม้า อำเภอประโคนชัย U2T
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8379
การย้อมสีเส้นใยฝ้ายด้วยสีธรรมชาติ ตำบลโคกม้า อำเภอประโคนชัย U2T
สาขาวิขาเคมี
-
การย้อมสีเส้นใยฝ้ายด้วยสีธรรมชาติ
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8378
การย้อมสีเส้นใยฝ้ายด้วยสีธรรมชาติ
สาขาวิขาเคมี
-
การย้อมสีเส้นใยไหมด้วยสีธรรมชาติ
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8377
การย้อมสีเส้นใยไหมด้วยสีธรรมชาติ
สาขาวิขาเคมี
-
การย้อมเส้นกกและไหลด้วยสีธรรมชาติ ตำบลหนองโบสถ์ อำเภอนางรอง
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8376
การย้อมเส้นกกและไหลด้วยสีธรรมชาติ ตำบลหนองโบสถ์ อำเภอนางรอง
สาขาวิขาเคมี
-
การย้อมเส้นกกและไหลด้วยสีธรรมชาติ ตำบลเสาเดียว อำเภอหนองหงส์
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8375
การย้อมเส้นกกและไหลด้วยสีธรรมชาติ ตำบลเสาเดียว อำเภอหนองหงส์
สาขาวิขาเคมี
-
การย้อมเส้นกกและไหลด้วยสีธรรมชาติ บ้านโนน อำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8374
การย้อมเส้นกกและไหลด้วยสีธรรมชาติ บ้านโนน อำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์
สาขาวิขาเคมี
-
การย้อมไหมด้วยสีเคมีแบบอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8373
การย้อมไหมด้วยสีเคมีแบบอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
สาขาวิขาเคมี
เอกสารประกอบการอบรมย้อมสีไหมด้วยสีเคมี
-
สื่อประกอบการสอน เคมีทั่วไป
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8369
สื่อประกอบการสอน เคมีทั่วไป
Hobanthad, Thanyapan
-
แอนโทไซยานิน (Anthocyanin) : พืชสีม่วง
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8352
แอนโทไซยานิน (Anthocyanin) : พืชสีม่วง
ธัญพรรณ, ฮ่อบรรทัด; ภัทรนันท์, ทวดอาจ; ศรัญญา, มณีทอง
สารสำคัญต่าง ๆ ที่อยู่ในพืชมีอยู่มากมายหลากหลายชนิด แต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติแตกต่างกันออกไป
ซึ่งการศึกษาคุณสมบัติสารสำคัญเหล่านั้นล้วนแล้วแต่ก่อให้เกิดองค์ความรู้ที่สำคัญ และสามารถนำไป
ประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ในด้านต่าง ๆ มากมาย เช่น ด้านการแพทย์ ด้านวิศวกรรม ด้านเกษตรกรรม ด้านวิทยาศาสตร์ เป็นต้น ดังนั้นจึงมีการศึกษาสารสำคัญต่าง ๆ ในพืชอย่างกว้างขวาง หนึ่งในกลุ่มสารที่ได้รับความ
สนใจศึกษา คือกลุ่มสารที่ให้สีตามธรรมชาติ เนื่องจากการที่พืชมีสีสันที่โดดเด่นสะดุดตา สร้างความสวยงา มแล้ว สารให้สีเหล่านั้นยังมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น คลอโรฟิลล์ (chlorophylls) ในพืชสีเขียว
แคโรทีนอยด์(carotenoids) ในพืชสีเหลือง ส้ม แดง และอีกสารกลุ่มหนึ่งที่ได้รับความสนใจศึกษา คือ
แอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ในพืชสีม่วง น้ำเงิน แดง ซึ่งสารกลุ่มแอนโทไซยานินเป็นที่สนใจศึกษาทั้ง
ทางด้านคุณสมบัติ โครงสร้าง จนถึงประยุกต์ใช้งานหลากหลายด้าน ดังในบทความนี้จึงได้เรียบเรียงเนื้อหาเกี่ยวกับแอนโทไซยานินในด้านต่าง ๆ ได้แก่ ลักษณะทั่วไป แหล่งที่พบ ประโยชน์ และการประยุกต์นำสารกลุ่ม
แอนโทไซยานินไปใช้งานในด้านต่าง ๆ
2022-01-01T00:00:00Z
-
แอนโทไซยานิน-พืชสีม่วง
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8351
แอนโทไซยานิน-พืชสีม่วง
ธัญพรรณ ฮ่อบรรทัด; ภัทรนันท์ ทวดอาจ; ศรัญญา มณีทอง
2022-09-12T00:00:00Z
-
เอกสารประกอบการสอนวิชาเคมีเชิงฟิสิกส์ 1
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8344
เอกสารประกอบการสอนวิชาเคมีเชิงฟิสิกส์ 1
ทัพสุริย์, สุภาวรัตน์
-
สื่อประกอบการสอนเคมี 1
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8341
สื่อประกอบการสอนเคมี 1
ภัทรนันท์, ทวดอาจ
-
A study of the transition metal doped boron nitride nanosheets as promising candidates for hydrogen and formaldehyde adsorptions
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8339
A study of the transition metal doped boron nitride nanosheets as promising candidates for hydrogen and formaldehyde adsorptions
Thupsuri, Suphawarat
2564-06-21T00:00:00Z
-
สื่อประกอบการสอนวิชาเคมีพื้นฐานสำหรับฟิสิกส์
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8338
สื่อประกอบการสอนวิชาเคมีพื้นฐานสำหรับฟิสิกส์
ทัพสุริย์, สุภาวรัตน์
-
อันตรายสารเคมีในเครื่องสำอาง
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8336
อันตรายสารเคมีในเครื่องสำอาง
ทัพสุริย์, สุภาวรัตน์
เครื่องสำอาง เป็นผลิตภัณฑ์ที่ส่วนใหญ่ใช้กับผิวกายภายนอก เพื่อความสะอาด สวยงาม แต่งกลิ่นหอม และสามารถปกป้องหรือส่งเสริมให้ร่างกายดูดีขึ้นได้ อีกทั้งยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่คนทุกเพศทุกวัยต่างใช้เครื่องสำอางกันทุกคนและทุกวัน จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ตัวอย่างเช่น ครีม โลชั่นบำรุงผิว น้ำหอม โคโลญจน์ ลิปสติก ครีมรองพื้น ทาแก้ม แต่งตา น้ำยาทาเล็บ น้ำยาล้างเล็บ ผลิตภัณฑ์แต่งผม ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย สบู่ แชมพู ครีมนวดผม ยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก ตลอดจนผ้าอนามัย ผลิตภัณฑ์เหล่านี้นับวันจะมีความหลากหลายทั้งรูปแบบ สี และกลิ่น ดังนั้นผู้บริโภคควรเลือกซื้อเลือกใช้แบบใดถึงคุ้มค่า ราคาเหมาะสม รวมทั้งจะมั่นใจได้อย่างไรว่าผลิตภัณฑ์เหล่านั้นเป็นเครื่องสำอางที่ปลอดภัยตรงตามความต้องการอย่างแท้จริง
2565-08-16T00:00:00Z
-
สื่อประกอบการสอนเคมีเชิงฟิสิกส์ 1
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8333
สื่อประกอบการสอนเคมีเชิงฟิสิกส์ 1
สื่อออก, วิริญรัชญ์
-
เอกสารประกอบการสอนวิชาเคมีเชิงฟิสิกส์1
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8332
เอกสารประกอบการสอนวิชาเคมีเชิงฟิสิกส์1
สื่อออก, วิริญรัชญ์
-
การศึกษาและพัฒนาวัสดุสำหรับกรองน้ำในตู้เลี้ยงปลาสวยงาม
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8327
การศึกษาและพัฒนาวัสดุสำหรับกรองน้ำในตู้เลี้ยงปลาสวยงาม
ภัทรนันท์, ทวดอาจ
2022-05-20T00:00:00Z
-
ทัศนคติและความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ วิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ในชีวิตประจำวัน ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 (COVID-19)
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8326
ทัศนคติและความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ วิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ในชีวิตประจำวัน ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 (COVID-19)
สุวรรณา จันคนา; กริชเพชร นนทโคตร
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาทัศนคติและความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ 2) เพื่อวิเคราะห์การเรียนการสอนออนไลน์ที่เหมาะสมกับนักศึกษา กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยได้แก่ นักศึกษาสาขาวิชาวิทยาศาสตร์ทั่วไป ชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ที่ลงทะเบียนเรียนวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์พื้นฐานในชีวิตประจำวัน ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ แบบสอบถามทัศนคติและความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า 1) นักศึกษามีความพึงพอใจต่อนโยบายการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ของมหาวิทยาลัยสอดคล้องกับสถานการณ์โควิด-19 ระดับมาก ร้อยละ 36.7 และระดับปานกลาง ร้อยละ 56.7 2) นักศึกษามีความพึงพอใจต่อวิธีการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ของมหาวิทยาลัย ด้วยโปรแกรม LMS ระดับปานกลาง ร้อยละ 40.0 และระดับปานกลาง ร้อยละ 50.0 3) นักศึกษามีความพึงพอใจต่อการใช้สื่อประกอบการเรียนการสอนออนไลน์ระดับมาก ร้อยละ 60.0 และระดับปานกลาง ร้อยละ 10.0 นักศึกษามีความพึงพอใจในการจัดการเรียนการสอนที่ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนการสอนระดับมาก ร้อยละ 50.0 และระดับปานกลาง ร้อยละ 26.7
2565-01-01T00:00:00Z
-
เอกสารประกอบการสอนรายวิชา สารเคมีและความปลอดภัย 2565
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8325
เอกสารประกอบการสอนรายวิชา สารเคมีและความปลอดภัย 2565
ภัทรนันท์, ทวดอาจ
-
เอกสารประกอบการสอนวิชาเคมีวิเคราะห์ 2565
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8319
เอกสารประกอบการสอนวิชาเคมีวิเคราะห์ 2565
ศรัญญา มณีทอง
-
การสกัด การทดสอบฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และการวิเคราะห์ปริมาณ β-sitosterol ด้วยเทคนิค HPLC ในใบฝรั่งและใบกะเพรา
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8317
การสกัด การทดสอบฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และการวิเคราะห์ปริมาณ β-sitosterol ด้วยเทคนิค HPLC ในใบฝรั่งและใบกะเพรา
สุวรรณา จันคนา
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ในการสกัด ศึกษาฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และการวิเคราะห์หาปริมาณ β-sitosterol ด้วยเทคนิค HPLC ในใบฝรั่งและใบกะเพรา ทำการสกัดพืชตัวอย่างที่อุณหภูมิห้อง โดยการแช่ด้วยตัวทำละลายเอทานอล ได้เปอร์เซ็นต์ของสารสกัดหยาบต่อน้ำหนักพืชแห้งของสารสกัดใบฝรั่งด้วยเอทานอล เท่ากับ 4.3264 และเปอร์เซ็นต์ของสารสกัดหยาบต่อน้ำหนักพืชแห้งของสารสกัดใบกะเพราด้วยเอทานอล เท่ากับ 3.6055 การทดสอบฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของสารสกัดใบฝรั่งและใบกะเพราโดยวิธี DPPH radical scavenging assay พบว่าสารสกัดใบฝรั่งด้วยเอทานอล ออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระโดยมีค่า IC50 เท่ากับ 61.5244 ppm และสารสกัดใบกะเพราด้วยตัวทำละลายเอทานอลออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระโดยมีค่า IC50 เท่ากับ 186.4208 ppm ในขณะที่สารละลายมาตรฐาน Trolox มีค่า IC50 เท่ากับ 19.0439 ppm การวิเคราะห์หาปริมาณ β-sitosterol ของสารสกัดใบฝรั่งด้วยเอทานอลซึ่งออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระได้ดี โดยใช้เทคนิค HPLC พบว่าสารสกัดใบฝรั่งด้วยเอทานอลมี β-sitosterol เท่ากับ 3.0616 %
2565-01-01T00:00:00Z
-
เอกสารประกอบการสอนชีวเคมี1
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8316
เอกสารประกอบการสอนชีวเคมี1
Jankana, Suwanna
-
เอกสารประกอบการสอนปฏิบัติการเคมีวิเคราะห์ 2
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8160
เอกสารประกอบการสอนปฏิบัติการเคมีวิเคราะห์ 2
Hobanthad, Thanyapan
-
สื่อประกอบการสอน เคมีวิเคราะห์ 2
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8159
สื่อประกอบการสอน เคมีวิเคราะห์ 2
Hobanthad, Thanyapan
-
เอกสารประกอบการสอนรายวิชา เคมีอุตสาหกรรม
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8144
เอกสารประกอบการสอนรายวิชา เคมีอุตสาหกรรม
ภัทรนันท์, ทวดอาจ
-
เอกสารประกอบการสอนวิชาเคมี 1
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8137
เอกสารประกอบการสอนวิชาเคมี 1
สื่อออก, วิริญรัชญ์
-
เอกสารประกอบการสอนวิชาเคมี 2
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8129
เอกสารประกอบการสอนวิชาเคมี 2
สุภาวรัตน์, ทัพสุริย์
-
Photocatalytic decolorization of ZnO/Fe for the removal of methylene blue by new microwave methodology
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8103
Photocatalytic decolorization of ZnO/Fe for the removal of methylene blue by new microwave methodology
Kongsak Pattarith, Yonrapach Areerob, Won-Chun Oh
The photocatalysis of ZnO/Fe was performed by the simple microwave method
for the removal of methylene blue. All samples were found to possess a singlephase monoclinic scheelite structure. On loading 5.0 mol% of Fe to the samples,
the photocatalytic activities were enhanced, suggesting the potential application
of the material as a superior visible light-driven photocatalyst relative to pure
ZnO for the decolorization of methylene blue dye. The enhanced decolorization
activity of the photocatalyst demonstrated the ability of Fe to reduce the band
gap energy of ZnO and improve the electron transfer in the ZnO/Fe adsorbent.
Moreover, the ultraviolet–visible absorption experiments exhibited an excellent
decolorization rate (30 min) along with a decolorization efficiency of 93% upon
the UV irradiation of ZnO/Fe in the pH range. The possible reaction mechanism
and decolorization pathway of the photocatalyst were discussed in detail, and
the stability of the catalyst was confirmed by the reusability test.
2022-03-07T00:00:00Z
-
ความต้องการศึกษาต่อหลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาเกษตรศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8102
ความต้องการศึกษาต่อหลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาเกษตรศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์
มุสิกา, อารยา; จันทรเพ็ญกุล, เลิศภูมิ; จันทร์นวล, ปฏิมา; จันผกา, บัวลอย; ประครองรักษ์, นฤมล
The 5th NAtional and International Research Conference 2022 (NIRC V 2022)
2022-02-14T00:00:00Z
-
ทัศนคติและความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนการสอนออนไลน์วิชาชีวเคมี2 ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 (COVID-19) กรณีศึกษา: นักศึกษาสาขาวิชาเคมี ชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8091
ทัศนคติและความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนการสอนออนไลน์วิชาชีวเคมี2 ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 (COVID-19) กรณีศึกษา: นักศึกษาสาขาวิชาเคมี ชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์
สุวรรณา จันคนา; กริชเพชร นนทโคตร
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาทัศนคติและความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ 2) เพื่อวิเคราะห์การเรียนการสอนออนไลน์ที่เหมาะสมกับนักศึกษา กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยได้แก่ นักศึกษาสาขาวิชาเคมี ชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ที่ลงทะเบียนเรียนวิชาชีวเคมี2 ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ แบบสอบถามทัศนคติและความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า 1) นักศึกษามีความพึงพอใจต่อนโยบายการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ของมหาวิทยาลัยสอดคล้องกับสถานการณ์โควิด-19 ระดับมาก ร้อยละ 37.5 2) นักศึกษามีความพึงพอใจต่อวิธีการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ของมหาวิทยาลัย ด้วยโปรแกรม LMS ระดับปานกลาง ร้อยละ 41.7 3) นักศึกษามีความพึงพอใจต่อการใช้สื่อประกอบการเรียนการสอนออนไลน์ระดับมาก ร้อยละ 54.2
2565-01-01T00:00:00Z
-
Antioxidant Activty and Total Phenolic Compounds of Chinese Chives and Winged Beam
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8088
Antioxidant Activty and Total Phenolic Compounds of Chinese Chives and Winged Beam
Jankana, Suwanna
The objectives of investigation were to determine antioxidant activity and total phenolic conpounds of methanolic extracts of Chinese Chives and Winged Beam. Antioxidant activity and total phenolic compounds were determined by DPPH radical scavenging assay and Folin-Ciocalteu method, respectively. The results showed that The IC50 values of DPPH radical scavenging of Chinese Chives and Winged Beam were 3007.83 and 2125.57 µg/mL, respectively. The total phenolic compounds of Chinese Chives and Winged Beam were 32.80 and 18.40 mg GAE/g of extract, respectively.
2022-01-01T00:00:00Z
-
เอกสารประกอบการสอนวิชาเคมีวิเคราะห์ 1
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8085
เอกสารประกอบการสอนวิชาเคมีวิเคราะห์ 1
ศรัญญา, มณีทอง
เอกสารประกอบการสอนวิชาเคมีวิเคราะห์ 1
-
สื่อประกอบการสอนวิชาเคมี 2 (ภาคเรียนที่ 2-2564)
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8084
สื่อประกอบการสอนวิชาเคมี 2 (ภาคเรียนที่ 2-2564)
ศรัญญา, มณีทอง
สื่อประกอบการสอนวิชาเคมี 2
-
การนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ เรื่อง การจัดระบบและอนุรักษ์คัมภีร์ใบลานโดยการบูรณาการกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ในจังหวัดบุรีรัมย์
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8083
การนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ เรื่อง การจัดระบบและอนุรักษ์คัมภีร์ใบลานโดยการบูรณาการกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ในจังหวัดบุรีรัมย์
ศรัญญา, มณีทอง; พิพัฒน์, ประเสริฐสังข์; เลอสันต์, ฤทธิขันธ์
ได้นำนักศึกษาลงพื้นที่วัดแจ้งตลาดโพธิ์ อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อทำการจัดระบบและอนุรักษ์คัมภีร์ใบลานโดยการบูรณาการกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
2565-02-25T00:00:00Z
-
สารต้านอนุมูลอิสระในพืชพื้นเมือง
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8081
สารต้านอนุมูลอิสระในพืชพื้นเมือง
ศรัญญา, มณีทอง; ภัทรนันท์, ทวดอาจ; ธัญพรรณ, ฮ่อบรรทัด
ปัจจุบันมนุษย์ได้ให้ความสำคัญต่อการดูแลสุขภาพมากขึ้น ตั้งแต่การเลือกบริโภคอาหารที่มีประโยชน์เพื่อการป้องกันและรักษาโรค หรือเพื่อเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง สามารถต้านทานต่อโรคภัยต่าง ๆ ได้ เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ และโรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น โดยหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคดังกล่าวคือ การเกิดอนุมูลอิสระ ซึ่งเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาในร่างกายของมนุษย์จากการหายใจ ภาวะความเครียด การบวนการเผาผลาญ หรือการได้รับอนุมูลอิสระจากสิ่งแวดล้อม ซึ่งสารต้านอนุมูลอิสระจะสามารถช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคต่าง ๆ ดังกล่าวนี้ได้ เนื่องจากสารต้านอนุมูลอิสระจะทำลายอนุมูลอิสระโดยการจับกับอนุมูลอิสระ ลดการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันหรือยับยั้งการเกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ โดยสารต้านอนุมูลอิสระส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปของสารประกอบฟีนอลิก เช่น กรดฟีนอลิก ฟลาโวนอยด์ แทนนิน แคโรทีนอยด์ เทอร์พีนอยด์ และวิตามิน เป็นต้น ซึ่งสามารถพบได้ในพืช ผัก ผลไม้ และสมุนไพรหลายชนิด จึงมีการศึกษาเกี่ยวกับสารต้านอนุมูลอิสระโดยเฉพาะในพืชพื้นเมืองอย่างกว้างขวาง
2565-01-04T00:00:00Z
-
เอกสารประกอบการสอนชีวเคมี2 (ฉบับปรับปรุงปี 2564)
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8079
เอกสารประกอบการสอนชีวเคมี2 (ฉบับปรับปรุงปี 2564)
จันคนา, สุวรรณา
-
Nitrogen monoxide storage and sensing applications of transition metal doped boron nitride nanotubes: A DFT investigation
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8078
Nitrogen monoxide storage and sensing applications of transition metal doped boron nitride nanotubes: A DFT investigation
Suphawarat, Thupsuri
The structural properties, electronic properties, and adsorption abilities for nitrogen monoxide (NO) molecule adsorption on pristine and transition metal (TM = V, Cr, Mn, Nb, Mo, Tc, Ta, W, and Re) doping on B or N site of armchair (5,5) single-walled boron nitride nanotube (BNNT) were investigated using the density functional theory method. The binding energies of TM-doped BNNTs reveal that the Mo atom doping exhibits the strongest binding ability with BNNT. In addition, the NO molecule weakly interacts with the pristine BNNT, whereas it has a strong adsorption ability on TM−doped BNNTs. The increase in the adsorption ability of NO molecule onto the TM−doped BNNTs is due to the geometrical deformation on TM doping site and the charge transfer between TM−doped BNNTs and NO molecule. Moreover, a significant decrease in energy gap of the BNNT after TM doping is expected to be an available strategy for improving its electrical conductivity. These observations suggest that NO adsorption and sensing ability of BNNT could be greatly improved by introducing appropriate TM dopant. Therefore, TM-doped BNNTs may be a useful guidance to be storage and sensing materials for the detection of NO molecule.
2562-04-05T00:00:00Z
-
-
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8077
-
suphawarat, Thupsuri
The structural properties, electronic properties, and adsorption abilities for nitrogen monoxide (NO) molecule adsorption on pristine and transition metal (TM = V, Cr, Mn, Nb, Mo, Tc, Ta, W, and Re) doping on B or N site of armchair (5,5) singlewalled boron nitride nanotube (BNNT) were investigated using the density functional theory method. The binding energies of TMdoped BNNTs reveal that the Mo atom doping exhibits the strongest binding ability with BNNT. In addition, the NO molecule weakly interacts with the pristine BNNT, whereas it has a strong adsorption ability on TM−doped BNNTs. The increase in the adsorption ability of NO molecule onto the TM−doped BNNTs is due to the geometrical deformation on TM doping site and the charge transfer between TM−doped BNNTs and NO molecule. Moreover, a significant decrease in energy gap of the BNNT after TM doping is expected to be an available strategy for improving its electrical conductivity. These observations suggest that NO adsorption and sensing ability of BNNT could be greatly improved by introducing appropriate TM dopant. Therefore, TMdoped BNNTs may be a useful guidance to be storage and sensing materials for the detection of NO molecule.
2562-04-05T00:00:00Z
-
ไลโคปีนในมะเขือเทศ
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8076
ไลโคปีนในมะเขือเทศ
สุภาวรัตน์, ทัพสุริย์
2565-01-16T00:00:00Z
-
สารต้านอนุมูลอิสระในพืชพื้นเมือง
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8075
สารต้านอนุมูลอิสระในพืชพื้นเมือง
ภัทรนันท์, ทวดอาจ; ภัทรนันท์, ทวดอาจ
ปัจจุบันมนุษย์ได้ให้ความสำคัญต่อการดูแลสุขภาพมากขึ้น ตั้งแต่การเลือกบริโภคอาหารที่มีประโยชน์เพื่อการป้องกันและรักษาโรค หรือเพื่อเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง สามารถต้านทานต่อโรคภัยต่าง ๆ ได้ เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ และโรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น โดยหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคดังกล่าวคือ การเกิดอนุมูลอิสระ ซึ่งเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาในร่างกายของมนุษย์จากการหายใจ ภาวะความเครียด การบวนการเผาผลาญ หรือการได้รับอนุมูลอิสระจากสิ่งแวดล้อม ซึ่งสารต้านอนุมูลอิสระจะสามารถช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคต่าง ๆ ดังกล่าวนี้ได้ เนื่องจากสารต้านอนุมูลอิสระจะทำลายอนุมูลอิสระโดยการจับกับอนุมูลอิสระ ลดการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันหรือยับยั้งการเกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ โดยสารต้านอนุมูลอิสระส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปของสารประกอบฟีนอลิก เช่น กรดฟีนอลิก ฟลาโวนอยด์ แทนนิน แคโรทีนอยด์ เทอร์พีนอยด์ และวิตามิน เป็นต้น ซึ่งสามารถพบได้ในพืช ผัก ผลไม้ และสมุนไพรหลายชนิด จึงมีการศึกษาเกี่ยวกับสารต้านอนุมูลอิสระโดยเฉพาะในพืชพื้นเมืองอย่างกว้างขวาง
2022-03-12T00:00:00Z
-
Development of cement pots by waste eggshell
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/8074
Development of cement pots by waste eggshell
ภัทรนันท์, ทวดอาจ
This research objected to study the properties of mortar mixed with waste eggshell and replacement at ratio of portland cement : eggshell waste such as 1:3:0 1:1:2 1:0:3 and 1:0:1. The results showed that compressive strength of 5×5×5 cm sample after 1 and 28 day curing was the effect physical and mechanical properties namely compressive strength and followed phase after hydration reaction by techniques x-ray diffractiometry. After that, the study was morphology of mortar. The result found that sand replacement by eggshell waste at ratio 1:0:1 indicated high compressive strength mortar more than containing at ratio 1:3:0 after 1 and 28 day curing. The analysis of hydration reaction by technique XRD was calcium silicate hydrate and calcium hydroxide. After that, the development of cement pots by waste eggshell ratio of portland cement : eggshell waste such as 1:3:0 1:1:2 1:0:3 and 1:0:1 on physical property for example texture weight and shrinkage. The study found that ratio of 1:0:1, which had smooth texture nearby ratio of 1:3:0 but low weight and slightly shrinkage hence it waste eggshell replaced sand in huge amounts.
2022-01-01T00:00:00Z